นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนทำหน้าที่ในฐานะนายกสมาคมฯ มาเป็นเวลา 7 ปี ในปีหน้า ปี 2567 จะครบ 8 ปี 2 วาระแล้ว เพราะฉะนั้น เมื่อจะถึงครบกำหนดเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่ ในเดือนเม.ย.ปีหน้า เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ตนได้หารือกับที่ประชุมว่าจะขอลาออก ก่อนที่จะถึงกำหนดการเลือกตั้งนายกคนใหม่ ในเดือนเม.ย.ปีหน้า ถึงแม้ขัอกำหนดของสมาคมฯ ไม่ได้กำหนดไว้ว่า จะเป็นนายกกี่สมัย แต่ตนทำงานเป็นนายกฯ มาเกือบ 2 สมัย และคิดว่าน่าจะให้คนใหม่มาดำเนินงานบริหารสมาคมฯ
นอกจากนี้ ในปี 2567 เป็นปีที่สมาคมกีฬาเพาะกายฯ ครบ 71 ปี และตนอยู่วงการเพาะกายมานานกว่า 30 กว่าปี ทำหน้าที่นายกสมาคมฯ มา 2 สมัย คิดว่าน่าจะให้คนใหม่มาทำหน้าที่เป็นนายกสมาคมฯ จะดีกว่า ถึงแม้จะมีตำแหน่งในสหพันธ์เพาะกายนานาชาติและสหพันธ์เพาะกายแห่งเอเชียก็ตาม แต่การทำงานมา 8 ปี น่าจะพอแล้ว และคงไม่ขอเป็นนายกสมาคมฯ อีกสมัย อาจจะเป็นที่ปรึกษา ไม่ได้ทิ้งวงการเพาะกาย แต่ก็อยากให้มีคนใหม่มาบริหารงานเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดความคิดใหม่ๆ ในการบริหารงาน การมีคนใหม่ทำให้วงการกีฬาเติบโต วงการเพาะกายมีคนที่เหมาะสมและมีความสามารถอีกเยอะที่จะช่วยพัฒนาสมาคมฯ ต่อยอดให้สมาคมฯ เพาะกายประสบความสำเร็จ
ส่วนการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 29 เม.ย.66 ที่ ห้องเอเวอร์กรีน ชั้น 5 โรงแรมอเล็กซานเดอร์ โดยที่ประชุมได้มีการแจ้งถึงผลการทำงานในปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีการหารือ เรื่องการแข่งขันเพาะกายรายการต่างๆ ในปี 2566 และ 2567 ได้แก่รายการ “โรดทูมิสเตอร์ไทยแลนด์ 2024” เพื่อจะคัดนักกีฬา อันดับ 1-5 เป็นตัวแทนเข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาเพาะกายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2567 ครั้งที่ 44 หรือ มิสเตอร์ไทยแลนด์ 2024 ที่ปีนี้ จะลดสนามแข่งขันจากเดิม 5 สนาม เหลือ 4 สนาม
สำหรับ 4 สนามที่เหลืออยู่ ได้แก่ สนามแรก “ไทยแลนด์ พายัพ คลาสสิค แชมเปี้ยนชิพ” วันที่ 8-9 ก.ค.ที่เซ็นทรัล ลำปาง ต่อด้วยสนาม 2 “ไทยแลนด์ มัสเซิล แอนด์ฟิสิค แชมเปี้ยนชิพ” วันที่ 16-17 ก.ย. ที่เซ็นทรัล พระราม 2, สนาม 3 “ไทยแลนด์ เซาท์เทิร์น บอดี้บิวดิ้ง แชมเปี้ยนขิพ” วันที่ 2-3 ธ.ค. ที่เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี และ สนามสุดท้าย “ไทยแลนด์ อีสาน คลาสสิค บอดี้บิวดิ้ง แอนด์ ฟิสิค สปอร์ต แชมเปี้ยนชิพ” วันที่ 11-12 ก.พ.2567 ที่เซ็นทรัล นครราชสีมา โดยได้มีการหารือเพื่อกำหนดคุณสมบัติของนักกีฬาที่จะเข้าแข่งขันเพื่อให้เหมาะสม โดยต้องแข่งในนามสมาชิกสโมสรของทางสมาคมฯ