ลามาร์ แจ็คสัน ควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ บรรลุข้อตกลงสัญญาระยะยาว 5 ปี เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (27 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา
แหล่งข่าวของ "อีเอสพีเอ็น (ESPN)" เผยว่า สัญญาของ แจ็คสัน มูลค่่ารวม 260 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,884 ล้านบาท) กลายเป็นผู้เล่นค่าจ้างแพงสุดของลีกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เฉลี่ยปีละ 52 ล้านเหรียญ (1,776 ล้านบาท) และการันตี 185 ล้านเหรียญ (6,321 ล้านบาท)
ก่อนหน้า ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ปี 2019 ขอการันตีค่าจ้าง 230 ล้านเหรียญ (7,860 ล้านบาท) เท่ากับ เดอชอน วัตสัน ควอเตอร์แบ็ก คลีฟแลนด์ บราวน์ส เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ คายเลอร์ เมอร์เรย์ ควอเตอร์แบ็ก อริโซนา คาร์ดินัลส์ ได้การันตีค่าจ้าง 189.5 ล้านเหรียญ (6,475 ล้านบาท) ตามข้อตกลง 5 ปี 230.5 ล้านเหรียญ (7,876 ล้านบาท)
แจ็คสัน ซึ่งทำหน้าที่เจรจาด้วยตัวเอง บรรลุข้อตกลงประมาณ 10 วัน นับตั้งแต่ จาเลน เฮิร์ตส ควอเตอร์แบ็ก ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ขยายสัญญา 5 ปี 255 ล้านเหรียญ (7,876 ล้านบาท) การันตี 180 ล้านเหรียญ (6,150 ล้านบาท)
การตกลงรายละเอียดเสร็จสิ้นก่อนเริ่ม NFL ดราฟต์ 2023 วันศุกร์ที่ 28 เม.ย. (ไทย) ซึ่ง เรฟเวนส์ สามารถคัดเลือกผู้เล่นควอเตอร์แบ็กได้ ก่อนคว้า เซย์ ฟลาวเวอร์ส ปีกนอก มหาวิทยาลัยบอสตัน ด้วยสิทธิ์อันดับ 22
เรฟเวนส์ ปักป้ายแฟรนไชส์แบบ nonexclusive เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ แจ็คสัน สามารถพูดคุยกับทีมอื่นได้ และ บัลติมอร์ มีสิทธิ์ยื่นข้อเสนอแข่ง แต่ไม่มีทีมใดแสดงความสนใจอย่างเป็นทางการ
แจ็คสัน วัย 26 ปี เปลี่ยนแฟรนไชส์ที่พลาดเพลย์ออฟ 3 ซีซันติดต่อกัน กลายเป็นทีมสถิติชนะมากกว่าแพ้ สถิติ 45-16 (คิดเป็น 73.8 เปอร์เซ็นต์) ตลอดอาชีพ
ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยหลุยส์วิลล์ ลงเล่นตัวจริงซีซันแรกปี 2019 ขว้างทัชดาวน์มากสุด 36 ครั้ง เฉพาะ 1 ซีซัน และเป็นเจ้าของสถิติวิ่งระยะมากสุด เฉพาะตำแหน่งควอเตอร์แบ็ก 1,206 หลา คว้ารางวัล MVP แบบเอกฉันท์
นับจากนั้น แจ็คสัน ส่วนสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว (188 เซนติเมตร) ถูกอาการบาดเจ็บรบกวนจนฟอร์มตก ขว้าง 33 ทัชดาวน์ เสีย 20 อินเทอร์เซ็ปต์ ตลอด 2 ซีซันล่าสุด และพลาดลงสนามรวม 11 เกม รวมเพลย์ออฟ แพ้ ซินซินเนติ เบงกอลส์ 17-24