คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส แชมป์เก่าบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) กำลังตกที่นั่งลำบากอย่างที่แฟนๆ ไม่เคยเห็นมาก่อนแก่ทีมที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเล่นงานพวกเขาได้เพียงนี้
ทีมของ สตีฟ เคอร์ เคยปะทะ เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ของลีกมาหลายครั้ง, เควิน ดูแรนท์ อดีตผู้เล่น และ คาไว เลียวนาร์ด ในหลากหลายยูนิฟอร์ม อาทิ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส, โตรอนโต แร็พเตอร์ส, แอลเอ คลิปเปอร์ส แต่กลับตามหลัง ซาคราเมนโต คิงส์ น้องใหม่เพลย์ออฟ 2 เกมครั้งแรกของยุค สตีเฟน เคอร์รี และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
วอร์ริเออร์ส อาจดูกระท่อนกระแท่นฤดูกาลนี้ เกือบจะต้องหล่นมาเสียพลังงานเล่น เพลย์-อิน ทัวร์นาเมนต์ แต่เข้่าสู่เพลย์ออฟ พวกเขายังเป็นคู่แข่งที่น่่ากลัวของทีมวางลำดับต้นๆ เปรียบได้กับ รีล มาดริด ซึ่งผลงาน ลา ลีกา สเปน ไม่สู้ดีนัก แต่พอเสียงเพลง Intro ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ดังขึ้น พลังแฝงของนักเตะเก๋าๆ อย่าง คาริม เบนเซมา, ลูกา โมดริช และ โทนี โครส ก็ระเบิดออกมา
พลังหนุ่มของ คิงส์ บดขยี้ และเล่นงานทุกๆ ความผิดพลาด ทำให้ วอร์ริเออร์ส ตกเป็นรองแทบทั้งซีรีส์ 2 เกมแรก และปัจจัยหนึ่งเกืดจาก วอร์ริเออร์ส บู่นอกบ้านอยู่แล้ว และยังไม่เห็นถึงความแตกต่าง หลังได้ แอนดรูว์ วิกกินส์ หายเจ็บ แต่อย่าหวังอะไรกับผู้เล่นที่หายหน้าหายตาไปนาน จะระเบิดฟอร์มได้ทันที โดยเฉพาะความเข้มของเกมเพลย์ออฟ
หลายๆ เพลย์ วิกกินส์ กับ เพื่อนร่วมทีม ทำได้เพียงจ้องเบอร์เสื้อตรงด้านหลังของผู้เล่น คิงส์ อย่าง ดี'แอรอน ฟ็อกซ์ ทั้งสเต็ปถอยหลังยิง และทะลุทะลวงพื้นที่ว่าง การเล่นของ ซาคราเมนโต ไม่ได้ถ่ายบอลซ้ายไปรอบๆ แต่โจมตีอย่างรวดเร็ว และเป็นระบบ ทำให้ โกลเดน สเตท หลังพิงเชือก เหลือเพียงบรรยากาศ ที่สนาม เชส เซ็นเตอร์ จะปลุกพวกเขากลับมา
แต่ข่าวคราวปรากฏมาว่า โกลเดน สเตท จะปราศจาก เดรย์มอนด์ กรีน ฟอร์เวิร์ดสารพัดประโยชน์ ติดแบน 1 เกม ข้อหาย่ำหน้าอก โดมานทาส ซาโบนิส เซ็นเตอร์ คิงส์ สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล นับตั้งแต่ กรีน ถูกไล่ออกกลางควอเตอร์ 4 ของเกม 2 วอร์ริเออร์ส แทบเจาะใต้แป้นไม่เข้าราวกับมีสนามพลังงานบริเวณวงใน และ ช็อต คล็อก (นาฬิกาจับเวลาต้องยิงภายใน 24 วินาที) มักเดินมาจนเหลือ 5 วืนาทีสุดท้าย จนดูเหมือนว่าไม่มีใครมองพื้นที่ใต้แป้น จอร์แดน พูล ยิงระยะ 3 คะแนน น่าผิดหวัง เข้าเป้า 1 จาก 7 ลูก และ เคอร์รี พลาดหมด 5 ลูก เฉพาะควอเตอร์ 4
อีกมุมหนึ่ง นั่นคือตัวตรของ กรีน ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ วอร์ริเออร์ส มาตลอด คอยทำงานสกปรก (dirty jobs) อาทิ ยั่วยุคู่แข่ง, เล่นตุกติก, trash talk (พูดข่มขวัญ) และเป็นผู้นำทีมคนหนึ่ง ส่วนงานหล่อๆ ปล่อยให้เป็นของ เคอร์รี และ เคลย์ ธอมป์สัน คู่หูการ์ดจอมแม่น ดังนั้นถ้าขาด กรีน ย่อมกระทบต่อทีม และหากตกเป็นรอง 0-3 ก็แทบหมดหวังพลิกสถานการณ์
ย้อนกลับมาช่วงฤดูกาลปกติ เราไม่มีทางรู้เลยว่า วอร์ริเออร์ส มีความต้องการขยับตัวเองขึ้นอันดับ 5 ของสายตะวันตก หรือไม่ (ถ้า ดัลลัส มาเวอริกส์ ยังจัดสำรองลงไปแพ้ได้ ทั้งๆ ที่ยังมีลุ้นเพลย์ออฟ มันก็น่าคิด) ซึ่งกรณีนั้น วอร์ริเออร์ส จะต้องปะทะ ฟีนิกซ์ ซันส์ และคงไม่มีใครอยากเจอ เควิน ดูแรนท์, เดวิน บูเกอร์ และ คริส พอล ตั้งแต่เพลย์ออฟรอบแรก และถ้าจบอันดับ 6 พวกเขาจะเจอ คิงส์ ที่ไม่มีประสบการณ์เพลย์ออฟ
ขออนุญาตไม่สรุปว่า เจตนาของ วอร์ริเออร์ส เป็นเช่นนั้นหรือไม่ แต่ คิงส์ ชุดนี้แสดงให้เห็นว่า การคว้าอันดับ 3 ของสายตะวันตก ไม่ได้มาแบบโชคช่วย และ ไมค์ บราวน์ เฮดโค้ช ซาคราเมนโต ก็เป็นสตาฟฟ์คนหนึ่งของ วอร์ริเออร์ส ชุดแชมป์ฤดูกาลที่แล้ว ย่อมรู้ไส้รู้พุง โกลเดน สเตท เป็นอย่างดี ดังนั้นโอกาสที่ แชมป์เก่า จะตกรอบถือว่าสูง ขึ้นอยู่กับจะโดนกวาด หรือไข่แตกเท่านั้น