ตระกูลเกลเซอร์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน มีความต้องการที่จะเก็บ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาไว้ในครอบครองต่อ และอาจตัดสินใจขายหุ้นเพียงส่วนน้อย เพราะพวกเขาเชื่อว่าในอนาคต "ปีศาจแดง" อาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงแตะหลัก 10,000 ล้านปอนด์ ในช่วง 10 ปีหลังจากนี้
ก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันดีว่าตระกูลเกลเซอร์ ประกาศหากลุ่มผู้ลงทุนรายใหม่ และพิจารณาที่จะขายสโมสรออกไป ซึ่งมีมหาเศรษฐีจากทั่วทุกมุมโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มทุนจากประเทศกาตาร์ รวมไปถึง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ จากสหราชอาณาจักร ที่ต้องการซื้อขาดทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ไปบริหารด้วยตัวเอง
สกาย สปอร์ตส สื่อกีฬาชั้นนำของประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่ามหาเศรษฐีชาวอเมริกันมีการพูดคุยกับกลุ่มทุนรายย่อยเพื่อขายหุ้นส่วนน้อยออกไป แต่พวกเขาก็จะยังได้บริหารทีมต่อ
นอกจากนี้ อีเอสพีเอ็น สื่อในสหรัฐอเมริกา ออกมาเปิดเผยว่า อัฟราม และโจเอล เกลเซอร์ 2 พี่น้อง มีความมั่นใจว่าพวกเขาจะได้ครอบครอง "ปีศาจแดง" ต่อไป หลังมีกลุ่มทุนอย่างน้อย 4 กลุ่ม ที่พร้อมยื่นเสนอเข้าซื้อหุ้นส่วนน้อยตามความต้องการของพวกเขา
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ตระกูลเกลเซอร์ เชื่อมั่นว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีศักยภาพดีพอที่จะทำให้มูลค่าของพวกเขาเพิ่มขึ้นไปแตะ 10,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4.25 แสนล้านบาท ในช่วงเวลา 10 ปีต่อจากนี้
อย่างไรก็ตาม เจมี แจ็คสัน นักข่าวอาวุโสจากค่าย "เดอะ การ์เดียน" ออกมาเปิดเผยว่า ชีค ยาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี จากกลุ่มทุนกาตาร์ ยังแสดงความมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถปิดดีลเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างไม่มีปัญหา โดยพร้อมยื่นข้อเสนอรอบสุดท้ายอีกครั้งก่อนวันที่ 28 เมษายนนี้