เซร์คิโอ เปเรซ นักซิ่ง เรด บูลล์ เรซซิง คว้าแชมป์ศึกฟอร์มูลา วัน รายการ "ซาอุดิอาระเบีย กรังปรีซ์" วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม ขณะที่ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน คู่หูชาวดัตช์ ไต่จากกริด 15 จบอันดับ 2
ระหว่างการตัดสินผลการแข่งขัน 2 อันดับแรกชัดเจน 2 อันดับถัดมาเกิดความสับสนเป็นเวลานาน หลังจบเรซ เฟร์นานโด อลอนโซ แชมป์โลก 2 สมัย ถูกปรับเพิ่ม 10 วินาที แล้วได้รับตำแหน่งบนโพเดียมคืน ช่วงเช้ามืดวันจันทร์ (20 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
เปเรซ วัย 33 ปี รับธงตาหมากรุกคนแรก ที่สนาม เจดดาห์ คอร์นิค เซอร์กิต ด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 21 นาที 14.894 วินาที เร็วกว่า เวอร์สแตพเพน เพื่อนร่วมทีม 5.355 วินาที
เวอร์สแตพเพน นักขับชาวดัตช์ ยังได้รับโบนัส 1 แต้ม หลังทำเวลาต่อรอบเร็วสุดรอบสุดท้าย ท่ามกลางการขับเคี่ยวกันด้วยความเร็วสูง รักษาตำแหน่งผู้นำคะแนนสะสม ประเภทบุคคล โดยเก็บเพิ่ม 19 แต้ม (18+1) รวมมี 44 แต้ม ทิ้งห่าง เปเรซ 1 แต้ม
นับเป็นชัยชนะสนามที่ 5 ตลอดอาชีพของ เปเรซ รวมที่มอนตี คาร์โล และ สิงคโปร์ ซึ่งเป็นรูปแบบ สตรีท เซอร์กิต (พื้นแทร็กเป็นถนนจริง) กระทั่งถูกตั้งสมญาว่า "street fighter"
เวอร์สแตพเพน จอดป้ายแค่รอบ Q2 ของการควอลิฟาย (จัดอันดับ) เนื่องจากปัญหา ไดรฟ์-ชาฟท์ (เพลาขับ)
อลอนโซ นักขับชาวสเปน จบเรซอันดับ 3 บนแทร็ก ฉลองโพเดียมครั้งที่ 100 จากการประลองความเร็ว 357 เรซ แต่ตำแหน่งดังกล่าวถูกริบไปชั่วคราว
อดีตนักขับ เฟอร์รารี และ แม็คลาเรน ถูกปรับเวลา 5 วินาที ข้อหาสตาร์ทนอกกริด และรับโทษขณะเข้าพิต ปรากฏว่าแม่แรงของทีมช่างสัมผัสตัวรถเร็วเกินไป จึงถูกปรับ 10 วินาที เป็นเหตุให้ จอร์จ รัสเซลล์ จาก เมอร์เซเดส ขยับจากอันดับ 4 ขึ้นอันดับ 3
ทว่า แอสตัน มาร์ติน เรียกร้องให้คณะกรรมการตรวจสอบใหม่ แล้วตัดสินว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอสรุปได้ว่าเกิดการทำผิดกติกา ทำให้ อลอนโซ จบเรซอันดับ 3 ตามด้วยคู่หูเมอร์เซเดส รัสเซลล์ และ ลูอิส แฮมิลตัน ตามลำดับ
ส่วน อเล็กซานเดอร์ อัลบอน หนึ่งเดียวของไทย สังกัด วิลเลียมส์ มีปัญหาระบบเบรกออกจากการแข่งขัน คะแนนสะสม 1 แต้ม เท่าเดิม อยู่อันดับ 13 ประเภทบุคคล
สำหรับสนามต่อไปจะย้ายมาแข่งขันต่อ รายการ "ออสเตรเลียน กรังปรีซ์" ที่สนาม อัลเบิร์ต ปาร์ก กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย วันที่ 2 เมษายน