คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
การแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา รับหน้าที่เจ้าภาพครั้งแรก จากเดิมที่การแข่งขันรายการนี้เพื่อนำความสามัคคีมาสู่อาเซียน แต่กลับกำลังนำความขัดแย้งมาแทนที่ เริ่มจากการหั่นกีฬาสากลออกไป แล้วนำกีฬาต่อสู้ และกีฬาพื้นบ้านมาบรรจุไว้มากมาย แม้อาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากบ่อยครั้งที่เจ้าภาพมักทำเช่นนี้ แต่ประเด็นดังกล่าวอาจจะเป็นเรื่องที่ห่างหายไปอย่างน้อยๆ ก็อีก 3 ซีเกมส์ ถัดไป เพราะทั้ง ไทยแลนด์, สิงคโปร์ , มาเลเซีย เจ้าภาพแต่ละครั้งต่อจากนี้ต่างหารือกันว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก
จากนั้นก็มาต่อกันที่ไม่ยอมใช้คำว่า "มวย" ตามมติของมนตรีซีเกมส์ หากแต่กลับไปใช้คำว่า "กุน ขแมร์" ด้วยเหตุผลว่าคือต้นตำรับ "มวยไทย" โดยไม่อ้างว่าเป็นต้นตำรับ "เลทเหว่ย" ของพม่า หรือ "มวยลาว" แต่กลับยกมาทาบชั้นกับ "มวยไทย" ที่มีการแข่งขันไปทั่วโลก เรื่องนี้ไม่ต้องฉลาดก็ทราบกันดีว่าอยากใช้ "มวยไทย" เป็นบันไดให้ "กุน ขแมร์" ได้เป็นที่รู้จัก
การจุดประเด็นขัดแย้งแบบนี้ ดูเผินๆ กัมพูชา อาจมองว่า มีแต่ได้ เพราะไม่ต้องโปรโมตอะไร แค่หาเรื่องด่ามวยไทยก็อปปี้ แล้วสั่งมวยเดินสายไปชกที่กัมพูชา พอชนะได้ก็เอาไปโปรโมตผ่านโลกออนไลน์ว่านี่ไงชัยชนะของต้นตำรับ แต่มันกระทบกับการค้า การท่องเที่ยว เหมือนเช่นที่มีขาใหญ่มวยลาว ออกมาด่าว่า "มวยไทย" แล้วสนับสนุน "กุน ขแมร์" มันส่งผลทำคนไทยที่กำลังตัดสินใจจะไปท่องเที่ยว 2 ชาตินี้ ลังเล และเปลี่ยนจุดหมายไปที่อื่นแทนจนมีชาวเน็ตลาว-เขมรออกมาตำหนิเป็นจำนวนมาก ว่าเรื่องนี้รัฐบาลเขมรอาจได้หน้าได้ซีน แต่มันเดือดร้อนคนที่ต้องเดินทางมาทำงานที่ไทย และยังต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวจากไทย
พอเริ่มบานปลายจนส่อแววกระทบเศรษฐกิจ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีเขมรผู้ครองตำแหน่งแบบมหาอมตะนิรันดร์กาล ออกมา เบรกความขัดแย้งแบบเท่ๆ ว่า ไม่อยากให้ประเด็น "มวยไทย-กุน ขแมร์" เป็นเรื่องขัดแย้งเพื่อนบ้าน ควรหาทางปรองดองสมานฉันท์แล้วยื่นเป็นเจ้าของร่วม พร้อมเหมารวมเทศกาลน้ำอันโด่งดังของไทยอย่าง "สงกรานต์" รวมด้วย ได้ยินแค่นี้ ถ้าเป็นตลกคาเฟ่ก็ต้องส่งเสียงดัง "แฮ่" เป็นการตบมุกได้เลย
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อมีการเปิดเผยว่า กัมพูชา ที่บอกว่า ซีเกมส์ ครั้งนี้จัดเพื่อความสามัคคีระหว่างชาติอาเซียน เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการนี้เอากับประเทศไทย แพงที่สุด เป็นจำนวน 24 ล้านบาท ทั้งที่ปกติไม่มีค่าลิขสิทธิ์สำหรับรายการนี้ มีเพียงแค่ค่าธรรมเนียมไม่มากไม่มายอะไร
ปรากฎว่ามีคำตอบแบบดูเก๋ไก๋เรื่องค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ จาก วัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า กัมพูชา ทำตามมาตรฐานซีเกมส์เสมอ ไม่มีการกำหนดค่าลิขสิทธิ์ซีเกมส์ หากแต่ขึ้นอยู่กับการเจรจา และการตลาด โดยราคาขึ้นอยู่กับตลาด หากตลาดใหญ่ก็ต้องมีราคาสูง และตลาดเล็กก็ต้องราคาย่อมเยากว่า แหม...แล้วก่อนหน้านี้ใครกันบอกไม่มีค่าลิขสิทธิ์ มีแต่ค่าธรรมเนียม
ตอนนี้เสียงแฟนกีฬาโลกออนไลน์ไทย ประสานเสียงแล้วว่าไม่อยากดูก็ได้ ต้องมารอดูว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย จะหาทางออกอย่างไร เมื่อ ซีเกมส์ นั้นอยู่ในกฎ "มัสต์แฮฟ" คนไทยต้องได้ดูฟรี