xs
xsm
sm
md
lg

ชุสต์ ฟงแตน ตำนานยิงรัวๆ / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ EYE ON SPORTSโดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
​​​นักเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ถึง 16 ประตูนั้นสุดยอดเหลือเกิน แต่อันนั้นมันเป็นการนำเอาจำนวนประตูที่ทำได้ทั้ง 4 ฟุตบอลโลกมาขยำรวมกัน ที่เจ๋งกว่านั้นก็ต้องนักเตะที่ยิงรัวๆมากที่สุดในบอลโลก รอบสุดท้าย หนเดียวอย่าง ฌุสต์ ฟงแตน (Just Fontaine) กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสที่สร้างชื่อกับสโมสร สต๊าด เดอ แร้งส์ (Stade de Reims) ในยุคปี 50 ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยวัย 89 ปี เขาลงเล่นใน ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย หนเดียวในปี 1958 และกดไปถึง 13 ประตู

​​​เปเล่ (Pelé) กองหน้าทีมชาติบราซิว ลงเล่นในบอลโลก 4 สมัย 1958 1962 1966 และ 1970 รวม 14 นัด ยิงประตูรวม 12 ประตู รั้งอันดับ 6 ของโลก ซึ่งตอนนี้มี คีเลียน อึมบั๊ปเป (Kylian Mbappé) กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสที่เพิ่งลงเล่นใน ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เพียง 2 สมัยเท่านั้น คือปี 2018 และ 2022 รวม 14 นัด แต่ยิงได้แล้ว 12 ประตูเท่ากัน คีเลียน ยังมีเส้นทางอีกอย่างน้อย 2 ฟุตบอลโลก และในอนาคต เขาอาจเป็นผู้ทำประตูรวมได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์

​​​ลิโอเน็ล เม้สซี่ (Lionel Messi) กองหน้าทีมชาติอารเฆ็นตีนา รั้งอันดับ 4 ร่วมกับ ฌุสต์ ฟงแตน แต่นั่นเป็นผลรวมจากบอลโลกตั้ง 5 สมัย 2006 2010 2014 2018 และ 2022 รวม 26 นัดมากกว่าใครๆ ยิง 13 ประตู ส่วน ฌุสต์ เล่นแค่ปี 1958 สมัยเดียวรวม 6 นัด ก็ยิง 13 ประตู

​​​แก๊ร์ด มึลเล่อร์ (Gerd Müller) เจ้าดินระเบิด กองหน้าทีมชาติเจอรมานี ลงเล่น 2 ฟุตบอลโลก 1970 และ 1974 รวม 13 นัด ยิงไป 14 ประตู มาเป็นอันดับ 3 ในขณะที่อันดับ 2 คือ เจ้าของฉายา อาร์นายน์ (R9) โรเนาโด (Ronaldo) กองหน้าทีมชาติบราซิว ไปบอลโลกตั้งแต่ปี 1994 ได้แช้มพ์โลกมาทั้งๆที่ไม่ได้ลงเล่นเลย แต่อีก 3 สมัย 1998 2002 และ 2006 ลงเล่นรวม 19 นัด ยิงระเบิด 15 ประตู

​​​นับจนถึงปัจจุบันนี้ผู้ครองสถิติทำสกอร์รวมมากที่สุดก็คือ มีโรสล๊าฟ คโลเซ่อ (Miroslav Klose) ดาวยิงทีมชาติเจอรมานี เชื้อสายโปแลนด์ หมอนี่ลงเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 4 สมัย 2002 2006 2010 และ 2014 รวม 24 นัด ยิงได้รวม 16 ประตู แต่ก็อย่างว่า คีเลียน อึมบั๊ปเป กองหน้าความเร็วสูงทีมชาติฝรั่งเศสทำไปแล้ว 12 ประตู มีแนวโน้มสูงมากที่จะเป็นผู้ทุบสถิติการทำประตูรวมได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์

​​​กลับมาที่เรื่องของ ฌุสต์ ฟงแตน ที่มีพ่อเป็นฝรั่งเศส แม่เป็นสเปน เกิดและมีชีวิตในวัยเด็กที่เมืองมาราเก๊ช (Marrakech) ประเทศมาร็อก (Maroc) ทีมที่โชว์ฟอร์มสุดยอดและคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา แม่ของเขามีเชื้อสายสเปนจึงเรียกลูกชายว่า ฌุสโต กลายเป็นชื่อเล่นที่ทุกๆคนรู้จัก

​​​ฌุสโต เริ่มเล่นฟุตบอลกับ มาราเก๊ช (AS Marrakech) และเข้าสู่อาชีพเต็มตัวกับ มาโรแกน กาซาบล็องกา (US marocaine de Casablanca) สโมสรในบ้านเกิด ฟอร์มเข้าตา มาริโอ ซาเต็ลลี (Mario Zatelli) นักเตะรุ่นพี่ในทีมมากๆเลย พอดีตอนที่ ฌุสโต อายุ 20 ปี มาริโอ ผันตัวเองมาเป็นโค้ชให้ นี้ส (OGC Nice) สโมสรในฝรั่งเศสจึงดึงตัวไปเล่นด้วยกัน ซึ่งในช่วง 3 ฤดูกาลนั้น ฌุสโต ก็ช่วยให้ทีมได้ทั้งแช้มพ์บอลถ้วยปี 1954 และแช้มพ์ลีกสูงสุดปี 1956

​​​ความจริง ฌุสโต ติดทีมชาติฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1953 แล้ว ทำแฮ้ททริคได้ตั้งแต่นัดแรกด้วย แต่ก็ห่างหายไปนานเพราะไปสงครามอัลจีเรียมา จากนั้น สต๊าด เดอ แร้งส์ ซึ่งไม่สามารถรั้ง เรมง โกปา (Raymond Kopa) ไว้ได้ เพราะ เรอัล มาดริด เสนอรายได้ให้มากกว่าถึง 10 เท่า จึงต้องการกองหน้าตัวใหม่ และนักเตะคนนั้นก็คือ ฌุสโต นั่นเอง ตอนค้าแข้งอยู่ที่ แร้งส์ นั้น ฌุสโต คว้าแช้มพ์ชุ่ยเลย ทั้งลีกสูงสุด 1958 1960 และ 1962 บอลถ้วย (Coupe de France) 1958 และได้รองแช้มพ์ถ้วยใหญ่ทวีปยุโรป 1959 ซึ่งปีนั้นแพ้ เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศ 0-2

​​​ในที่สุด ฌุสโต ก็ติดชุดบอลโลก 1958 เพราะตัวเก๋าๆเจ็บกันหมด และก็เป็นโอกาสให้สร้างชื่อยิงสนั่น 13 ประตู แม้จะจบอันดับ 3 ก็ตาม ฌุสโต เลิกอาชีพค้าแข้งเร็วกว่าที่ควรเนื่องจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังจากปัญหากระดูกขาซ้ายหักด้วยวัยเพียง 28 ปี เขาเป็น 1 ใน 3 ผู้ก่อตั้งสหภาพนักเตะอาชีพแห่งชาติ (Union nationale des footballeurs professionnels - UNFP) เพื่อช่วยเหลือดูแลสถานภาพและผลประโยชน์ด้านต่างๆของนักเตะอาชีพในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1961 ครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น