โคดี กักโป, ดาร์วิน นูนเญซ และ โม ซาลาห์ ซัดเบิ้ลคนละสองประตู ก่อนที่ โรแบร์โต ฟีร์มิโน บวกเพิ่มอีกหนึ่งลูก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ฟอร์มร้อนแรงเกินห้ามใจ เปิดบ้านถล่ม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยับเยิน 7-0 แซง นิวคาสเซิล ขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตาราง
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566 เกมแดงเดือด “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“หงส์แดง” ภายใต้การคุมทีมของ เยอร์เกน คล็อปป์ เกมนี้นำทัพมาโดย 3 แนวรุก อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี กักโป และ ดาร์วิน นูนเญซ ขณะที่ “ปีศาจแดง” ของกุนซือ เอริก เทน ฮาก วาง มาร์คัส แรชฟอร์ด, แอนโทนี และ เวาต์ เวกฮอร์สต์ เป็น 3 ประสานในแดนหน้า
เกมเปิดแลกกันอย่างสนุกตั้งแต่เริ่ม เจ้าถิ่นลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า มีโอกาสลุ้นประตูมากกว่า แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่เข้ากรอบ ขณะที่ทีมเยือนอาศัยจังหวะสวนกลับได้ลุ้นหลายครั้ง แต่ยังไม่คมเช่นกัน
น.42 แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายไปก่อนจากจังหวะลูกฟรีคิกที่ บรูโน่ แฟร์นานเดส เปิดมาให้ คาเซมิโร โหม่งเข้าไป แต่มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ไม่ได้ประตู
น.43 จากที่เกือบจะเสียประตูกลายเป็นเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่มาขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จ่ายให้ โคดี กักโป หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนล็อกเข้ากลางแล้วปั่นโค้งๆ บอลหนีมือ ดาบิด เด เกอา เข้าไป และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งเวลาหลังเริ่มมาเพียง 2 นาที ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่แนวรับทีมเยือนเสียบอลในแดนตัวเอง ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เปิดบอลให้ ดาร์วิน นูนเญซ โหม่งเข้าไป
เท่านั้นยังไม่พอ น.50 ลิเวอร์พูล ขยับหนีห่างไปเป็น 3-0 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กระชากบอลเข้ามาริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายให้ โคดี กักโป ชิปมุมแคบผ่านตัว ดาบิด เด เกอา เข้าประตูไปแบบนิ่มๆ
น.66 เจ้าถิ่น “หงส์แดง” ขยับสกอร์เพิ่มไปอีกเป็น 4-0 จากจังหวะสวนกลับ ดาร์วิน นูนเญซ จ่ายบอลไปแฉลบ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ มาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดบอลเสียบใต้คานเข้าไปแบบสุดสวยชนิดที่นายทวารทีมเยือนได้แค่มอง
น.75 ลิเวอร์พูล ยังยิงไม่หยุด ได้ประตูเพิ่มอีกเป็น 5-0 จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลจากริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายมาให้ ดาร์วิน นูนเญซ โหม่งเช็ดเข้าไป
น.83 “หงส์แดง” มาบวกประตูเพิ่มอีกหนึ่งเม็ด จากลูกขลุกขลิกหน้าประตู ก่อนบอลเด้งมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดโล่งๆ เข้าไป เจ้าถิ่นหนีห่าง 6-0
น.88 โรแบร์โต ฟีร์มิโน หัวหอกชาวบราซิเลียน มายิงประตูให้ ลิเวอร์พูล ขยับสกอร์เพิ่มหนีห่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เป็น 7-0
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ลิเวอร์พูล เปิดบ้านไล่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแบบขาดลอย 7-0 เดินหน้าทำสถิติไม่แพ้ “ผีแดง” 8 เกมติดต่อกันเมื่อลงเล่นที่แอนฟิลด์
จากชัยชนะในเกมนี้ทำให้ “หงส์แดง” มีเพิ่มเป็น 42 แต้ม แซง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตาราง ไล่จี้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อันดับ 4 เหลือ 3 แต้ม และแข่งขันน้อยกว่า 1 นัด ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด มี 49 แต้มเท่าเดิม รั้งอันดับ 3 ต่อไป
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (GK), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โม ซาลาห์, โคดี กักโป, ดาร์วิน นูนเญซ
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เกอา (GK), ดิโอโก ดาโลต์, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์, คาเซมิโร, เฟร็ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, แอนโทนี, เวาต์ เวกฮอร์สต์