xs
xsm
sm
md
lg

สินสมุทร กลิ่นมี "อควาแมนเมืองไทย" ขอเขียนตำนาน "แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์" เวที ONE

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แฟนหมัดมวยชาวไทยอาจเพิ่งเคยได้ยินชื่อ "สินสมุทร กลิ่นมี" เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งเจ้าตัวประเดิม "วัน แชมเปียนชิพ" ได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 แม้ต้องเจอกับสุดยอดนักคิก บ็อกซิ่งระดับโลก อย่าง นิกี โฮลสเกน จากเนเธอร์แลนด์ โดยเขาจัดฮุกขวาเข้าเต็มใบหน้าส่งกำปั้นชาวดัตช์ลงไปนอนกับพื้น ชนะน็อกกลางยกสอง พร้อมรับโบนัส 50,000 เหรียญฯ จากชาตรี ศิษย์ยอดธง ในไฟต์เปิดตัวของเขาในศึก ONE X ที่สิงคโปร์

หลังจากนั้นชื่อของ "สินสมุทร" กลายเป็นที่รู้จักของแฟนมวยชาวไทยมากยิ่งขึ้น เมื่อได้รับโอกาสจาก วัน แชมเปียนชิพ ต่อเนื่องได้ขึ้นชกช่วงกลางปี 2022 ก่อนจะเอาชนะน็อก เลียม โนแลน กำปั้นจากสหราชอาณาจักร ด้วยการดักชกหมัดซ้ายเข้าที่ใบหน้าส่งคู่แข่งล้มทั้งยืน ได้รับเสียงปรบมือกึกก้องทั่วทั้งฮอลล์

ด้วยคาแร็กเตอร์ที่ดูเซอร์ๆ กับทรงผมที่คล้ายคลึงกับ "อควาแมน" ทำให้เขาได้รับฉายาว่าเป็น "อควาแมนเมืองไทย" ถึงแม้ปัจจุบันเขาจะตัดสินใจตัดผมไว้ทรงธรรมดาแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักของแฟนมวยทั่วทั้งโลกมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ในเมืองไทยก่อนหน้านี้ชื่อของ สินสมุทร กลิ่นมี ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักในบรรดาแฟนหมัดมวย แต่จริงๆแล้ว เขาคือหนึ่งในสายเลือดนักมวยไทยตระกูล “กลิ่นมี” ที่สร้างชื่อในวงการมวยไทยก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงนักมวยชื่อดังอย่าง “สุดสาคร ส.กลิ่นมี” พี่ชายแท้ๆของเขา


- สายเลือดมวยไทยแท้

สินสมุทร มีชื่อจริงว่า "บุญสม กลิ่นมี" และมีชื่อเล่นว่า "คล้าว" ปัจจุบันอายุ 27 ปี พื้นเพเป็นคนเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็นลูกชายคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องสามคน มีพี่ชาย 1 และพี่สาว 1 คน ซึ่งที่มาของชื่อเล่นว่า "คล้าว" มาจากปีที่เขาเกิดนั้น ละครเรื่อง "มนต์รักลูกทุ่ง" กำลังโด่งดัง และคุณยายที่เลี้ยงเขามาตั้งเด็กจึงตั้งชื่อเล่นตามพระเอกที่ชื่อ "คล้าว" ซึ่งเจ้าตัวก็ใช้ชื่อเล่นนี้มาจนถึงปัจจุบันน

เจ้าตัวเติบโตมาในค่ายมวยของที่บ้านที่มีคุณลุงของเป็นเจ้าของร่วมกับพ่อของเขาชื่อว่าค่าย “ศิษย์ อ.” โดยญาติสนิทในตระกูลหลายคนต่างก็เป็นนักมวยดัง และแต่ละคนก็มีดีกรีแชมป์โลกมวยไทยกันทั้งสิ้น

ตั้งแต่จำความได้ "สินสมุทร" เห็นพ่อของเขาซึ่งมีอาชีพเป็นเทรนเนอร์ และพี่ชาย รวมทั้งญาติๆ ก็ฝึกมวยกันตลอด ทำให้เขานึกสนุกไปร่วมวงเล่นต่อยเตะกระสอบตามประสาเด็ก ทำให้มวยไทยค่อยๆซึมเข้าสู่หัวใจ และกลายเป็นความหลงใหลโดยไม่รู้ตัว

- ขึ้นสังเวียนแรกตอนอายุ 7 ขวบ

ในวัย 7 ขวบ สินสมุทร กลิ่นมี เริ่มฝึกมวยอย่างจริงจังภายใต้การฝึกสอนของพ่อ และได้โอกาสขึ้นสังเวียนมวยไทยครั้งแรกในบาร์แถวพัทยา และเจ้าตัวก็ได้เรียนรู้รสชาติของชัยชนะเป็นครั้งแรกโดยได้ค่าตัวเพียง 100 บาทเป็นรางวัล
จากนั้นเขาก็ติดใจบนเส้นทางผืนผ้าใบ เริ่มตระเวนตามรอยพี่ชาย อย่าง สุดสาคร กลิ่นมี และญาติๆ ออกเดินสายขึ้นสังเวียนแถวพัทยาจนถึงอายุ 15 ปี ก็ได้เข้ามาโชว์ฝีมือบนเวทีมาตรฐานในกรุงเทพฯ ก่อนจะโกอินเตอร์ตั้งแต่อายุ 17 ปี

"สินสมุทร" ตัดสินใจออกไปโกอินเตอร์ตระเวนชกที่ต่างประเทศ เพราะไม่สามารถหาคู่ชกในไทยที่มีรูปร่างสมน้ำสมเนื้อกับเขาได้ ด้วยสรีระร่างกายที่สูงใหญ่ ทำให้ครอบครัวตัดสินใจส่งเขาไปเดินสายแข่งขันในเวทียุโรป ทั้งรัสเซีย, อิตาลี, ฝรั่งเศส รวมไปถึงประเทศจีน พร้อมกับพกสถิติ ชนะ 78 ครั้ง แพ้ 16 ครั้ง


- ส่งผลงานให้ ONE พิจารณานานถึง 2 ปี

หลังสั่งสมประสบการณ์ตระเวนต่อยที่ต่างประเทศมาอย่างยาวนาน สินสมุทร มีความฝันที่อยากจะเข้ามาชกในศึก วัน แชมเปียนชิพ มานานหลายปี เขาดิ้นรนส่งผลงานต่างๆ ไปถึง ONE ในทุกช่องทางเพื่อนำเสนอตัวเอง และแสดงความุ่งมั่นที่จะให้องค์กรศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวระดับโลกแห่งนี้ให้โอกาสให้เขาเข้าร่วมสังกัด

สินสมุทร เพียรพยายามอย่างไม่ลดละในการส่งผลงานของเขาให้ ONE พิจารณาอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นเวลาประมาณ 2 ปี จนกระทั่ง วันหนึ่ง เขาได้รับการติดต่อจากทีมงานให้เข้ามาเซ็นสัญญา และลงแข่งขันในไฟต์แรกกับนักชกคิกบ็อกซิ่งระดับตำนาน “นิกี โฮลสเกน” ซึ่งนั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาอย่างสมบูรณ์

"ผมเกิดมาก็ได้เห็นค่ายมวยเลย ครอบครัวของผมอยู่กับมวยไทยมาตลอด ที่บ้านผมเขาต่อยมวยกันมารุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่จำความได้ผมก็ต่อยมวยตามเขามาเรื่อยๆ และก็ชอบมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก" สินสมุทร เริ่มกล่าว

"สำหรับพี่ชาย อย่าง สุดสาคร ถ้าผมอยู่เมืองไทยผมก็จะตามไปเชียร์เขาตลอด ผมกับพี่ชายผมอายุห่างกัน 10 ปี แม้จะไม่ค่อยได้คุยกันมากเท่าไหร่ในตอนเด็กๆ แต่เขาคือแรงบันดาลใจของผม เรามองเขาตลอด ห่วงใยเขาตลอด"


"ตอนเรามาแข่งใน ONE เขาก็พยายามให้กำลังใจ แก้เกมให้ผม เขาสอนผมตลอดทั้งความคิด เชิงมวย และหลายๆอย่าง อย่างไฟต์ล่าสุดที่ผมแพ้มาในการชิงแชมป์โลกตอนนั้นผมดาวน์มากๆ แต่พี่ชายผมเขาก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจคนอื่น ใครจะพูดอย่างไรก็ให้เขาพูดไป"

"ก่อนหน้านี้คนไทยอาจไม่ค่อยรู้จักผม เพราะผมไปตระเวนชกที่ต่างประเทศทั้ง จีน, รัสเซีย, อิตาลี, ฝรั่งเศส ไปมาหลายที่ เพราะในไทยผมหาคู่ชกไม่ได้ด้วยความที่รูปร่างผมสูงใหญ่กว่าคนอื่น ถ้าให้เทียบรายการพวกนั้นที่ผมไปชกมา จริงๆนักมวยเก่งๆก็มีเยอะแต่ก็ต่างกับเวทีที่เมืองไทยอยู่เยอะเหมือนกันด้วยอะไรหลายๆอย่าง"

"หากให้พูดถึงไฟต์เปิดตัวของผมในเวที ONE ตอนนั้นชนะน็อกด้วย ถือเป็นความฝันของผมมาตลอดที่อยากเข้ามายกในรายการนี้ ผมดีใจมากที่ชนะนิกี ซึ่งเขาถือเป็นนักคิก บ็อกซิ่ง ระดับตำนานเลยก็ว่าได้ ผมได้พิสูจน์ตัวเอง ได้รับโบนัสจากชาตรี"

"อควาแมนเมืองไทย ผมชอบฉายานี้นะ ต้องเท้าความก่อนว่าเมื่อก่อนผมไว้ผมยาวคล้ายๆกับอควาแมน แต่ตอนนี้ไว้ผมสั้นแล้วไม่รู้เขาจะเรียกผมว่ายังไง แต่ถ้าเขาจะให้ฉายาอะไรผมก็ดีใจหมด"

"ถ้าให้พูดถึงเวที ONE ถือว่าแตกต่างกับรายการอื่นๆ ที่ผมไปชกมาเยอะมาก รายการอื่นๆ เขาไม่ค่อยทำอะไรที่ละเอียดเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็น ONE เขาจะตรวจทุกอย่าง ชั่งน้ำหนักละเอียด, ตรวจค่าน้ำในร่างกาย และต่างๆอีกมากมาย คือถ้าคุณไม่พร้อมจริงๆ คุณก็จะไม่ได้ชก แถมยังมีค่าตัวที่สูงกว่าที่อื่น ทำให้นักมวยทุกคนมีกำลังใจที่จะซ้อม มีกำลังใจที่จะต่อย"

"หลังจากนี้ผมอยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น ไม่อยากถอยหลัง ตอนนี้ผมตัดสินใจลงแข่งขันมวยพิเศษที่ชาตรีจะจัดขึ้น เป็นมวยแบบไม่จำกัดรุ่น ซึ่งตามจริงผมไม่มีปัญหาในการชกกับคู่แข่งที่ตัวใหญ่กว่า ผมไม่อยากจะกับคนที่ตัวเล็กกว่า"

"ทุกคนอยากเป็นแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ อยากสร้างตำนานของตัวเอง ถ้าเราชนะคนตัวใหญ่ได้เราก็เท่กว่า มีคนพูดถึงมากกว่า แต่ถ้าชนะคนตัวเล็กกว่ามันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และถ้าแพ้ผมก็คงจะต้องเอาปี๊บไปด้วย ไว้คลุมหัวเวลาแพ้"

"อยากจะฝากแฟนมวยทุกคนช่วยเป็นกำลังใจ ช่วยเชียร์ผม ผมจะทำให้เต็มที่ เดือนหน้านี้วันที่ 17 ผมจะรีแมตช์ชิงแชมป์โลกมวยไทยกับ รีเกียน ก็อยากให้มาดูผมเยอะๆ มาให้กำลังใจผมเยอะๆ ที่เวทีมวยลุมพินี อยากให้รีเกียนกลัว และคิดว่านี่มันเป็นนรกในเมืองไทยชัดๆ" สุดยอดกำปั้นชาวไทย กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับ สินสมุทร กลิ่นมี จะมีคิวขึ้นชกชิงแชมป์โลกมวยไทย รุ่นไลต์เวต (170 ปอนด์) กับ รีเกียน เออร์เซล เจ้าของเข็มขัดคนปัจจุบันที่เจ้าตัวเพิ่้งจะพ่ายแพ้เมื่อปลายปีก่อน โดยจะชกกันเป็นคู่เอกในศึก ONE ลุมพินี วันที่ 17 มีนาคมนี้ ที่เวทีมวยลุมพินี







กำลังโหลดความคิดเห็น