xs
xsm
sm
md
lg

“ซูเปอร์โบว์ล” กับควอเตอร์แบ็กผิวสี / MVP

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

การประกบคู่ระหว่าง แคนซัส ซิตี ชีฟส์ กับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ นับเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ซูเปอร์โบว์ล ซึ่ง 2 ควอเตอร์แบ็กผิวสีตัวจริง แพทริค มาโฮมส์ กับ จาเลน เฮิร์ตส ตามลำดับ มาวัดฝีมือกัน เดิมพันด้วยโทรฟี “วินซ์ ลอมบาร์ดี” ที่สนาม สเตท ฟาร์ม สเตเดียม เมืองเกลนเดล มลรัฐอริโซนา ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย

ตามประวัติศาสตร์อันยาวนาน ดั๊ก วิลเลียมส์ คือ ผู้พลิกโฉมหน้า อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ตลอดกาล และถูกจดจำในฐานะควอเตอร์แบ็กผิวสีแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล คนแรก ย้อนอดีตปี 1978 แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส คัดเลือกควอเตอร์แบ็กวัยหนุ่มตั้งแต่รอบแรก เขาอำลา NFL ช่วงสั้นๆ ปี 1982 หลังปิดฉาก 2 ซีซัน (1984-1985) ของลีก ยูเอสเอฟแอล (United State Football League : USFL) เขาย้ายมา วอชิงตัน เรดสกินส์ (ปัจจุบัน คือ วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส) เมื่อปี 1986

ศึกซูเปอร์โบว์ล XXII (22) วิลเลียมส์ พา เรดสกินส์ เอาชนะ เดนเวอร์ บรองโกส์ ขาดลอย 42-10 ฤดูกาล 1987 ด้วยวัย 33 ปี สร้างสถิติขว้าง 4 ทัชดาวน์ สูงสุดเฉพาะ 1 ควอเตอร์ และได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงชนะเลิศ ขว้างบอลเข้าเป้า 18 จาก 29 ครั้ง ระยะ 340 หลา ถึงแม้เกิดอาการบาดเจ็บหัวเข่าตั้งแต่ควอเตอร์แรกของเกม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของ เจสัน ไรท์ ประธาน คอมมานเดอร์ส

ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษ ใครต่อใครมักเกิดอคติต่อ ควอเตอร์แบ็กเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน แตกต่างจากควอเตอร์แบ็กผิวขาว ซึ่งถูกมองว่าไอคิวสูง และขยันทุ่มเท ทัศนคติแบ่งแยกเช่นนี้ส่งผลให้ ควอเตอร์แบ็กผิวสี ที่มีพรสวรรค์ และแข็งแรง ถูกมองข้าม ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จบนระดับมหาวิทยาลัยแค่ไหน ควอเตอร์แบ็กเหล่านี้มักถูกโยกไปเล่นตำแหน่งอื่น เมื่อพวกเขาก้าวสู่ระดับอาชีพ

วิลเลียมส์ เคราะห์ดีที่ยังได้รับโอกาสพิสูจน์ฝีมือ ในฐานะควอเตอร์แบ็ก หลังจากเขาคว้า MVP ซูเปอร์โบว์ล เขาเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ ควอเตอร์แบ็กเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน นักกีฬาที่เป็นแบบเดียวกับเขาสามารถสร้างความแตกต่างบนสนาม โดยความสำเร็จของเขา คือ จุดเริ่มต้น ถึงกระนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปสำหรับเขาในการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์

วิลเลียมส์ ไม่ใช่ตัวจริงระดับ NFL เขาเป็นเพียงตัวเลือกอันดับ 2 กระทั่ง เจย์ ชโรเดอร์ ได้รับบาดเจ็บ หลัง เรดสกินส์ เข้าเพลย์ออฟ เขาถูกโปรโมตเป็นตัวจริง ด้วยเรตติงการขว้าง 94.0 แต่เรื่องโอกาสลงเล่น ไม่ใช่อุปสรรคเพียงประการเดียวของเขา เพียง 1 วันก่อนเริ่ม ซูเปอร์โบว์ล 22 วิลเลียมส์ เข้ารับการรักษารากฟันแบบฉุกเฉิน ต้องทนความเจ็บปวดมหาศาล และเลวร้ายกว่านั้น เขาลื่นตั้งแต่ไดรฟ์การบุกชุดแรกของ เรดสกินส์ จนเข่าแอ่น ขณะตามหลัง เดนเวอร์ 0-10 แต่ความเจ็บปวดไม่สามารถขัดขวางเขาทำหน้าที่ และสร้างประวัติศาสตร์

ช่วงวัยเด็ก วิลเลียมส์ มาจากครอบครัวหาเช้ากินค่ำที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เขามีพรสวรรค์ด้านกีฬาหลากหลาย เล่นอเมริกันฟุตบอล, บาสเกตบอล และ เบสบอล ก่อนตัดสินใจเลือก อเมริกันฟุตบอล เพื่อความเป็นเลิศ ด้วยเหตุนี้ เรื่องราวของเขาสร้างแรงบันดาลใจแก่นักกีฬารุ่นหลังที่มีพื้นเพแบบเดียวกัน ก่อนหน้า วิลเลียมส์ เข้าสู่ NFL นักกีฬาเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันแทบไม่มีหวังได้ฝึกฝนเพื่อเป็นควอเตอร์แบ็ก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโอกาสแสดงฝีมือ

ความจริงกระบวนการต่อต้านอคติมีผลมากจนกระทั่ง 3 จาก 5 ควอเตอร์แบ็ก ซึ่งถูกดราฟต์รอบแรก เมื่อปี 1999 เป็นเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ได้แก่ โดโนแวน แม็คแน็บบ์, อคิลี สมิธ และ ดอนเต คัลเป็ปเปอร์ จวบจนปัจจุบัน ควอเตอร์แบ็กผิวสี ไต่เต้าจากมหาวิทยาลัยสู่ NFL มากขึ้นเรื่อยๆ ความสำเร็จระดับอาชีพของ วิลเลียมส์ เปรียบดั่งสัญลักษณ์แห่งความหวัง แม้ว่า NFL ยังมีปัญหาการแบ่งแยกด้วยสีผิว แต่ไม่ได้รุนแรงเหมือนยุคของ วิลเลียมส์

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กผิวสีคนที่ 3 ซึ่งคว้าแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล ต่อจาก รัสเซลล์ วิลสัน หมายมั่นปั้นมือสร้างประวัติศาสตร์ เป็นควอเตอร์แบ็กผิวสีคนแรกที่คว้าแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล มากกว่า 1 สมัย ขณะที่ เฮิร์ตส ลุ้นเป็นควอเตอร์แบ็กผิวสีรายที่ 4 ซึ่งสัมผัสโทรฟี “วินซ์ ลอมบาร์ดี” แล้วเราจะทราบว่าฝ่ายไหนจะสมหวัง
กำลังโหลดความคิดเห็น