จากกรณีปัญหา “เงินค้างท่อ” ในวงการกีฬาไทยกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาจังหวัด ในการดำเนินกิจกรรมกีฬาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะผู้เบิกจ่ายเงินกองทุน และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF)ในฐานะผู้อนุมัติงบประมาณ ได้พยายามร่วมมือกับสมาคมกีฬาทั้งแห่งประเทศไทยและแห่งจังหวัด ในการเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้วงการกีฬาไทยเดินหน้าพัฒนาต่อไปนั้น
ล่าสุด “ดร.หญิง” ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้เสนอแนวคิดและร่วมออกระเบียบแนวปฏิบัติในการยื่นเอกสารหลักฐานการขอเบิกจ่ายเงินที่ได้รับการส่งเสริม และสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เพื่อดำเนินกิจกรรม และส่งเสริมสนับสนุนกีฬาต่างๆ ทั้งในระดับชาติ และนานาชาติ รวมถึงกีฬาอาชีพ และกีฬามวย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผ่านการอนุมัติของบอร์ดกองทุนฯ โดยได้มีการประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นมา ซึ่งจะรวมถึงโครงการที่ค้างในปี 2565 ที่ผ่านมาอีกด้วย
“ดร.หญิง” ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับแนวปฏิบัติในการยื่นเอกสารหลักฐานการขอเบิกจ่ายเงินนี้เป็นครั้งแรกที่มีผ่านการอนุมัติของบอร์ดกองทุนฯ จากปัญหาเงินค้างท่อที่คาราคาซังมาระหว่างสมาคมกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยเจ้าหน้าที่คลังกองทุน ซึ่งที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเรื่องการเบิกจ่ายเงินไม่ใช่หน้าที่ของกองทุนฯ ก็ตาม โดยผู้จัดการกองทุนฯ มีหน้าที่ในการบริหาร ผลักดันโครงการที่ยื่นขอเข้ามา เพื่อให้บอร์ดกองทุนฯ พิจารณา และอนุมัติเท่านั้น แต่เมื่อเป็นเรื่องของการให้บริการขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่หรือไม่ใช่หน้าที่ ก็ต้องร่วมมือกันทำงานส่งมอบการบริการที่ดีให้แก่ทุกๆ หน่วยที่มาขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม จากการร่วมมือกันแก้ปัญหาในช่วงที่ผ่านมา จึงเล็งเห็นรายละเอียดที่ส่งผลต่อขั้นตอนการเบิกจ่าย จึงได้ศึกษา และจัดทำระเบียบการเบิกจ่าย ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติ พร้อมหัวข้อที่จำเป็นต้องมีในรูปแบบเช็คลิสต์ หรือเอกสารประกอบการเบิกจ่าย เพื่อลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่คลังกองทุน ของทาง กกท. เป็นครั้งแรก และได้รายงานต่อบอร์ดกองทุนฯ และได้รับการอนุมัติประกาศใช้ เพื่อให้กระบวนการเบิกจ่ายโปร่งใส รวดเร็วขึ้น
สำหรับเอกสารประกอบการเบิกจ่าย หรือเช็คลิสต์ จะแบ่งออกเป็น ค่าเก็บตัวฝึกซ้อมทั้งในและต่างประเทศ, ค่าจ้างผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้เชี่ยวชาญกีฬา, การส่งแข่งขันกีฬา, การจัดการแข่งขันกีฬา, ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา, อุปกรณ์กีฬา, การส่งเสริมกีฬาอาชีพ และกีฬามวย ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรายการตรวจสอบเอกสารต่างๆ หากมีครบตามกำหนดก็สามารถเบิกจ่ายเงินในการส่งเสริม และสนับสนุนต่างๆ ได้
ทั้งนี้ ระเบียบคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การบริหารกองทุน และการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.2559 ข้อ 12 ให้ผู้จัดการกองทุนฯ มีหน้าที่บริหารจัดการกองทุนฯ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และให้มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
1.จัดทำแผนประมาณการรายรับ และรายจ่ายประจำปี รวมทั้งแผนประจำปีล่วงหน้า 4 ปี พร้อมทั้งแผนการดำเนินงาน และแผนการเสนอโครงการที่จะขอรับการส่งเสริม หรือสนับสนุน เพื่อเสนอให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ พิจารณาก่อนเริ่มปีบัญชีไม่น้อยกว่า 60 วัน
2.พิจารณา และนำเสนอโครงการ เพื่อให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ พิจารณา 3.ติดตามผลการดำเนินการของโครงการ เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ต่อไป 4.พิจารณา และนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินกองทุน เพื่อเป็นเงินรางวัล ทุนการศึกษา หรือการช่วยเหลือด้านสวัสดิการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
5.เสนอความเห็น หรือแนวทางการดำเนินงานของกองทุนฯ ตลอดจนเสนอแนวทางในการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนฯ ต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ 6.รับผิดชอบการบริหารงานบุคคล และงานธุรการของกองทุนฯ รวมทั้งติดตามการปฏิบัติงานเกี่ยวกับกองทุน และ 7.ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ มอบหมาย