จากกรณีปัญหาที่ประเทศกัมพูชา เจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกม์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ ได้ใช้ชื่อการแข่งขัน มวย (มวยไทย) ว่า กุน ขแมร์ ที่เป็นศิลปะประจำชาติของตัวเองแทน ทำให้ทางประเทศไทยจะไม่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน ในขณะที่ทางสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟม่า) ออกมายืนยันว่าชาติไหนที่เข้าร่วมการแข่งขัน จะถูกแบนในศึกเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนพฤศจิกายนด้วยนั้น
ล่าสุด “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ทางกกท.กำลังรอดูความชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะหน้าที่การส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ก็จะดูความถูกต้อง กฎกติกา และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสหพันธ์ ที่ของมวยไทยจะต้องเป็นอิฟม่า ที่ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ซึ่งโอลิมปิกไทยจะเข้าร่วมแข่งขันก็ต่อเมื่อเป็นการแข่งขันที่ได้รับการดูแลจากสหพันธ์ที่ถูกต้องเท่านั้น ในส่วนของกกท. เรามีหน้าที่แค่เตรียมนักกีฬาให้ดีที่สุด พร้อมที่สุด ส่วนจะได้แข่งหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการโอลิมปิคฯ อีกครั้งหนึ่ง
“กกท.และกองทุนพัฒนการกีฬาแห่งชาติ ยืนยันว่าพร้อมทำหน้าที่สนับสนุนเตรียมนักกีฬาเข้าแข่งขัน ส่วนทางโอลิมปิคฯ ก็ต้องส่งความชัดเจนมาให้ ตอนนี้ทุกคนรอดูอยู่ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเป็นแบบใด แต่ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็คงส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันไม่ได้” ดร.ก้องศักด กล่าว
ผู้ว่าการกกท. กล่าวต่อว่า ถ้าหากปัญหานี้ยืดเยือก็คงมีผลต่อการเตรียมนักกีฬาแน่นอน เพราะเราก็ต้องการความชัดเจน ไม่ใช่แค่มวยแต่ตอนนี้มีอีกหลายชนิดกีฬาที่มีปัญหาเพราะเจ้าภาพยังไม่ยืนยันอีเวนต์ที่จะแข่งขัน ทำให้เตรียมนักกีฬาได้ยาก อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีการคุยกันตลอดและเตรียมจัดสรรงบไว้แล้ว ถ้าต้องส่งแข่งก็พร้อมสนับสนุนทุกรูปแบบ แต่ถ้าสุดท้ายไม่แข่ง ก็ต้องทำความเข้าใจกับนักกีฬา และให้เตรียมตัวต่อสู่เอเชี่ยนอินดอร์ฯ ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพแทน
ดร.ก้องศักด กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการพัฒนามวยไทย ต่อให้ไม่มีในซีเกมส์ เราก็มีทัวร์นาเมนต์รองรับอยู่ต่อเรื่อง โดยเฉพาะการสร้างความพร้อมเพื่อต้อนรับนักกีฬาต่างประเทศในศึกเอเชี่นอินดอร์ฯ รวมถึงการขับเคลื่อนมวยไทยไปสู่การแข่งขันระดับนานาชาติที่สูงขึ้นไปอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว
“เราต้องยอมรับในหลักการ คงไปทำอะไรกับเจ้าภาพไม่ได้เพราะนี่เป็นสิทธิของเขา เราเองก็ต้องมีมารยาทเช่นกัน ทางโอลิมปิคไทยฯ ก็จะทำหน้าที่ประสานกับเจ้าภาพให้ชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร และกกท.ก็มีหน้าที่เตรียมนักกีฬาให้พร้อมที่สุดเท่านั้น” นายใหญ่ค่ายหัวหมากกล่าวปิดท้าย