xs
xsm
sm
md
lg

ช้างศึก vs ดาวทอง นัดชิงในฝันของชาวอาเซียน / แมวดำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ

ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 บอกตามตรง เริ่มต้นแบบกร่อยๆ ขนาดว่านัดแรกของที่ทีมชาติไทย เอาชนะ บรูไน ยังไม่มีการถ่ายทอดสดด้วยซ้ำ เพราะไม่มีช่องโทรทัศน์ใดกล้าแบกเงินมาเสี่ยงกับทีม "ช้างศึก" ที่ขาดซูเปอร์สตาร์หลายราย ...แต่เมื่อทีมชาติไทย มาถึงรอบรองชนะเลิศ แล้วบุกไปแพ้ มาเลเซีย 0-1 นัดแรก ท่ามกลางการกดดันของกองเชียร์ "เสือเหลือง" กลับมาเล่นนัดที่ 2 ที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต กลายเป็นการปลุกกระแสแฟนบอลเข้าชม 18,927 คน แม้ไม่เยอะเหมือนสนามชาติอื่น แต่ก็อบอุ่นกว่านัดก่อนๆ มาก

ชัยชนะเหนือ มาเลเซีย 3-0 เป็นเรื่องที่น่าพอใจ พร้อมกับตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลเอเอฟเอฟ คัพ เป็นครั้งที่ 10 ของทีมชาติไทย และเป็นประวัติศาสตร์สูงสุดเลยทีเดียว โดยทัพ "ช้างศึก" ยังเป็นเจ้าของสถิติแชมป์สูงสุด 6 สมัย ขณะที่อันดับ 2 สิงคโปร์ 4 สมัย, เวียดนาม 2 สมัย และ มาเลเซีย 1 สมัย

การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศรายการนี้สำคัญกับทั้ง ไทย และ เวียดนาม ซึ่งหากเราได้แชมป์ ก็จะเพิ่มสถิติเป็นแชมป์สมัยที่ 7 สูงสุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย ส่วน เวียดนาม นั้นเป็นการสั่งลาของ "โค้ชปาร์ก" ปาร์ก ฮัง ซอ กุนซือจอมดีเดือดชาวเกาหลีใต้ ที่หมดสัญญาทำงานกับ "ดาวทอง" ในเดือนนี้ ทั้งนักเตะ และตัวเขาก็อยากจะทิ้งทวนด้วยตำแหน่งแชมป์เช่นกัน

นัดนี้นอกจากจะเป็นการชิงแชมป์อาเซียนแล้ว ยังเหมือนการชิงตำแหน่งเบอร์ 1 ของภูมิภาคอาเซียนของทั้งสองชาติอย่างแท้จริง โดยที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เวียดนาม พัฒนา และยกระดับจนมาเป็นคู่ต่อกรทีมชาติไทย แถมแรงกิ้งฟีฟ่าก็ยังเป็นเบอร์ 1 อาเซียน แต่ผลงานทั้งในอดีต และปัจจุบันของทีมชาติไทย ก็ยังเป็นชาติที่ชาวอาเซียนต่างให้การยอมรับ

เมื่อย้อนดูสถิติไม่น่าเชื่อว่า หากนับเฉพาะฟุตบอลอาเซียน คัพ (รายการนี้) ไทย กับ เวียดนาม เคยมีโอกาสพบกันนัดชิงชนะเลิศแค่เพียงปี 2008 ครั้งนั้น ทีมชาติไทย แพ้เวียดนาม สกอร์รวม 2 นัด 2-3 (นัดแรก ที่ราชมังคลาฯ เวียดนาม ชนะ 2-1 นัดสอง ที่สนามมีดินห์ บ้านเขา เสมอ 1-1 )

โดยสื่อเวียดนาม พากันกระพือคลิป และภาพสกอร์เมื่อปี 2008 เพื่อแสดงให้เห็นว่า "ช้างศึก" ของเราเคยแพ้พวกเขามาแล้ว และเป็นการปลุกเร้ากองเชียร์ดาวทองกันยกใหญ่

หากมองอย่างเป็นกลาง ก็ต้องยอมรับว่ารายการนี้ "ดาวทอง" เขามาดีจริง ลงสนาม 6 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 นัด อีกทั้งยังไม่เสียประตูสักนัด เก็บได้ 6 คลีนชีต โดยเฉพาะฟอร์มการเซฟของ ดัง วาน ลัม นายทวารดีกรีมือ 3 ตลอดกาล เซเรโซ่ โอซาก้า แห่งศึกเจลีก ถือว่าเหนียวหนึบ

ส่วนผู้เล่นที่โดดเด่นคงหนีไม่พ้น เหงียน เทียน ลินห์ ดาวซัลโวประจำทีมที่รายการนี้ ซัดไปแล้ว 5 ประตูจาก 6 นัด เป็นรองเพียง ธีรศิลป์ แดงดา จากทีมชาติไทยคนเดียว และอีกคนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ ดวน วาน เฮา แบ็กซ้ายจอมตุกติกนี่แหละ เข้าบอลแต่ละทีอย่างกับอยู่บนสังเวียน MMA ดุเดือดเหลือเกิน แถมผู้ตัดสินไม่ค่อยจะแจกใบเหลืองซะด้วย ทั้งทัวร์นาเมนต์ได้มาเหลืองเดียว ยิ่งเรื่องความแสบนี้ ชิน แท ยอง กุนซือ อินโดนีเซีย รับประกันได้ ถึงกับต้องนำคลิปนอกเกมของอดีตตัวสำรองสโมสรฮีเรนวีนรายนี้มาลงในอินสตาแกรมเรียกร้องความใส่ใจเป็นพิเศษจากผู้ตัดสินก่อนลงสนามรอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 กันเลย

เรื่องที่ต้องห่วงอีกเรื่องคงเป็นสนามมีดินห์ สเตเดี้ยม ที่ว่าโหดหินเหลือเกิน มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ต่างก็โดนกันมาหมดแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องบรรยากาศ หากแต่สภาพพื้นผิวสนามขรุขระหญ้าตายหญ้าเหลืองนี่แหละ บ่นอุบกันทั้งอาเซียน โดนประจานจนแม้แต่แฟนบอลเวียดนามเองเขาก็ยังเขิน

แต่เอาตรงๆ ถ้าทีมชาติไทย เล่นได้ตามมาตรฐานที่ผ่านๆ มา ก็ไม่น่าห่วงอะไร และเชื่อเหลือเกินว่าหลังจบการแข่งขัน 2 นัดนี้ เราจะได้รู้กันอย่างกระจ่างแจ้ง ว่า ระหว่าง ไทย หรือ เวียดนาม ใครจะเป็นเบอร์ 1 อาเซียนตัวจริงเสียที


กำลังโหลดความคิดเห็น