ผู้ขมศึกฟุตบอลโลก 2022 ตอบโต้พฤติกรรม ทีมชาติเยอรมนี ชูภาพ เมซุต โอซิล จอมทัพชุดแชมป์โลก 2014 พร้อมยกมือปิดปาก ระหว่างการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม พบ สเปน วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน
ทีมของ ฮันซี ฟลิค รอดพ้นความปราชัยด้วยลูกยิงตีเสมอ 1-1 ของ นิคลาส ฟุลครูก กองหน้าสังกัด แวร์เดอร์ เบรเมน นาที 83 ยังเหลือความหวังเข้ารอบน็อกเอาท์ โดยต้องชนะ คอสตา ริกา สถานเดียว แล้วลุ้นให้ ญี่ปุ่น แพ้นัดสุดท้าย (พบ สเปน)
ทว่าระหว่างการแข่งขัน กองเชียร์กลุ่มหนึ่ง ถูกพบว่ายืนอยู่บนอัฒจันทร์ ถือภาพ โอซิล พร้อมยกมือปิดปาก ย้อนรอยพฤติกรรมของ "อินทรีเหล็ก" ขณะถ่ายภาพหมู่ ก่อนคิกออฟเกมเปิดสนามกลุ่ม E แพ้ ญี่ปุ่น 1-2 สัปดาห์ที่แล้ว
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) สั่งแบนปอลกแขน "OneLove" ของ เยอรมนี และชาติอื่นๆ เพื่อสนับสนุน กลุ่มความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ทำให้ แชมป์โลก 4 สมัย คัดค้านคำสั่งดังกล่าว ด้วยการยกมือปิดปาก สื่อถึงการปิดกั้นเสรีภาพ
ทว่าแฟนๆ ลูกหนังสู้กลับ โดยชูภาพ โอซิล เกือบทั่วสนาม ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรม มือถือสาก ปากถือศีล ของ ทีมชาติเยอรมนี
โอซิล วัย 34 ปี ปัจจุบันรับใช้ อิสตัน บาซักเซเฮียร์ สโมสรของลีกตุรเคีย อำลาทีมชาติหลังจบ ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย โดยถูกมองว่าเป็นแพะรับบาป เนื่องจากสายเลือดเติร์ก รวมถึงถูกเชื่อมโยงการเมือง กรณีเข้าพบ เรเซป ตอยยิป เออร์โดกาน ประธานาธิบดี ตุรเกีย
อดีตนักเตะ รีล มาดริด และ อาร์เซนอล กล่าว "การปฏิบัติที่ผมได้รับจาก เดเอฟเบ (สมาคมฟุตบอลเยอรมนี) และคนอื่นๆ ทำให้ผมไม่อยากเล่นทีมชาติอีกต่อไป"
"ผมรู้สึกราวกับไม่มีใครต้องการ และคิดว่าสิ่งที่ผมสร้างไว้ตั้งแต่เล่นทีมชาตินัดแรก เมื่อปี 2009 ถูกลืมจนหมดสิ้น ผมไม่อยากเล่นทีมชาติอีกต่อไป ขณะที่ผมมีความรู้สึกถูกเหยียดเชื้อชาติ และไม่ให้ความเคารพ ผมเคยสวมเสื้อ ทีมชาติเยอรมนี ด้วยความภูมิใจ แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว"
"เมื่อบุคคลระดับสูงของ เดเอฟเบ มองผมอย่างที่พวกเขาทำ ไม่ให้ชาติกำเนิด ตุรกี ของผม และเชื่อมโยงผมกับการเมือง ดังนั้นจบก็คือจบ นี่ไม่ใช่สาเหตุที่ผมเล่นฟุตบอลอาชีพ ผมจะไม่นั่งอยู่เฉยๆ แล้วไม่ทำอะไรเลย การเหยียดเชื้อชาติ เป็นสิ่งที่ไม่มีวันยอมรับได้"
