คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
การแข่งขันฟุตบอลรายการพิเศษอย่าง J.League Asia Challenge Thailand 2022 ที่ประเทศไทย จบไปแล้ว ท่ามกลางความชื่นใจของแฟนฟุตบอลชาวไทย ที่ได้เห็นนักเตะไทยระดับ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ "เช็ค" สุภโชค สารชาติ ลงฟาดแข้งกับต้นสังกัดในเจลีก
โดยผลงานของทั้งคู่ในเจลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา เป็นอย่างไรกันบ้าง เริ่มจาก ชนาธิป ลงสนามกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่
- ลงสนาม 16 นัด (ตัวจริง 15 นัด)
- คิดเป็นนาที 956 นาที
- โอกาสทำประตู 6 ครั้ง
- ทำประตูไม่ได้
- แอสซิสต์ 2 ครั้ง
- ค่าเฉลี่ยการผ่านบอล 58.1%
มองเผินๆ อาจไม่โอเค ในสายตาแฟนบอลหลายคน แต่หากมองลึกลงไป ชนาคุง มีสถิติการเลี้ยงผ่านคู่แข่งเฉลี่ยต่อเกม 30.8% และยังเป็นอันดับ 7 ของเจลีก อีกอย่างที่ต้องไม่ลืมคือ สภาพร่างกายของเขามีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนแทบตลอดฤดูกาล และสิ่งสำคัญเป็นเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับสโมสรใหม่ ที่เป็นทีมลุ้นแชมป์เจลีกทุกฤดูกาล และมีคู่แข่งแย่งชิงตำแหน่งทั้งตัวต่างชาติ นักเตะญี่ปุ่น และดาวรุ่งในทีม มันไม่ง่ายแน่นอน
แต่กระนั้น "ชนาคุง" ของแฟนๆ ก็นำตัวเอง และทีมมาถึงตำแหน่งรองแชมป์เจลีก 2022 ด้วยคะแนนที่ตามหลังแชมป์ โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส เพียง 2 แต้มเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ดูเหมือนว่า เขาจะจริงจังมาก เนื่องจากเป้าหมายคือการคว้าแชมป์
ส่วนรายของ "เช็ค" สุภโชค วัย 24 ปี เพิ่งรับข่าวดีด้วยสัญญาการค้าแข้ง 5 ปี กับ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ วันที่เขาเดินทางไปแข่งขันกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในรายการ J.League Asia Challenge Thailand 2022 เป็นการอำลาแฟนบอล "ปราสาทสายฟ้า" เพื่อไปสร้างอนาคตกับ "นกเค้าแมวเมืองเหนือ" แห่งเจลีก เขาถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความรัก และอาลัยต้นสังกัด
ซึ่ง "เช็ค" นั้นว่ากันว่าตอนนี้เป็นผู้เล่นที่มีอนาคตไกลจริงๆ ในวัยเพียง 24 ปี เล่นได้ขนาดว่า ฤดูกาลแรกแท้ๆ มีโอกาสลงสนามเพียงแค่ 7 นัด และช่วงท้ายๆ เกมด้วย แต่สามารถทไปแล้ว 3 แอสซิสต์ แม้จะยังทำประตูไม่ได้ แต่มันเป็นนิมิตรหมายที่ดีมาก ยิ่งมาทัวร์เอเชียกับต้นสังกัดที่เมืองไทย ยังทำประตู และแอสซิสต์ได้ด้วย
ขณะที่เว็บไซต์ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถืออย่าง Transfermarket.com เผยค่าตัวของ สุภโชค อยู่ที่ 1 ล้านยูโร (ประมาณ 37 ล้านบาท) ถือเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรองเพียง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่มีค่าตัว 1.5 ล้านยูโร (ประมาณ 55 ล้านบาท)
ได้แต่ภาวนาขอให้นักเตะไทยทั้งคู่ ได้พักผ่อน และฟื้นฟูร่างกายกันอย่างเต็มที่ก่อนไปลุยเจลีก ฤดูกาล 2023 ด้วยความสมบูรณ์สุดขีด เพื่อเขียนตำนานบทใหม่ของตัวเองให้ระบือลือล้นในปีหน้า
**ขอบคุณภาพจากแฟนเพจ J.League เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น**