ภายหลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และบริษัทไทยลีก ได้มีการแจ้งโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ฟุตบอลถ้วย ภายในประเทศ ช่วงเลกที่ 2 ของฤดูกาล ซึ่งก็จะมีส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมทีมชาติไทย
โดยที่โปรแกรมของ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย หรือ เอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ขยับเลื่อนออกไป จากเดิมจะแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายน 2566 และคาดว่าจะไปแข่งขันในช่วงเดือนมกราคม 2567 ที่ประเทศกาตาร์ เพื่อให้ทัพ "ช้างศึก" มีเวลาในการเตรียมทีมลุยศึกซีเกมส์ 2023
ด้าน เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจ "ลุงเนวิน" ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนโปรแกรมฟุตบอลในประเทศ เพื่อความสำเร็จในระดับภูมิภาคอาเซียนอย่างซีเกมส์ ด้วยบทความที่มีเนื้อหาดังต่อไปนี้
เลิกฝัน “ฟุตบอลโลก”
แล้วมุ่งหน้าสู่ ”พนมเปญ”
ที่เคยบอกว่าจะก้าวข้ามอาเซียน แล้วมองเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น คือ ระดับเอเชีย ทำอันดับให้ดีที่สุด เพื่อไปให้ถึงฝันของคนไทยทั้งประเทศ คือ ทีมชาติไทย ได้สัมผัสฟุตบอลโลก สักครั้ง ธงชาติไทย ได้ไปสะบัดในสนามเวิลด์คัพสักที
ก็เป็นเพียงลมปาก ที่หาความเชื่อถือไม่ได้เลย
ถ้าสมาคมฯ ยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ทีมชาติไทย จะมีเป้าหมายอะไรได้ สุดท้ายก็กลับมาวิ่งไล่ล่าหาแชมป์ในพื้นที่เล็กๆ เหมือนเดิมที่เป็นมาชั่วนาตาปี เป้าหมายของสมาคมฯ และ ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลไทย ก็ยังเป็น แชมป์อาเซียน แชมป์ซีเกมส์ ในขณะที่ชาติอื่นๆ ในอาเซียน เขามองไปในพื้นที่กว้างใหญ่ คือ เอเชีย กันแล้ว
ยกเลิก ฟีฟ่าเดย์ แล้ว ทำลายระบบลีกอาชีพ หยุดลีก เลื่อนลีก เร่งลีกให้จบเร็ว เพื่อที่จะเป็นแชมป์ซีเกมส์ นี่เป็นวิสัยทัศน์ ของมือสมัครเล่น เป็นความคิดของคนที่ไม่รู้จักฟุตบอลอาชีพ และ เป็นการตัดสินใจของคนที่ย่ำอยู่กับที่ ไม่มีแนวคิดที่จะพัฒนาฟุตบอลไทย ให้เข้าใกล้เวทีฟุตบอลโลก แม้แต่น้อย
ระบบลีกอาชีพ คือ การพัฒนาฟุตบอลไทย ด้วยภาคเอกชน โดยที่รัฐบาล แทบจะไม่มีส่วนร่วมเลย การพัฒนามาตรฐานฟุตบอลไทย ทั้ง ความสามารถ ความแข็งแรงของนักกีฬา และการจัดการทุกมิติของฟุตบอลไทย มาถึงจุดนี้ ถ้ารัฐบาลจะไม่สนับสนุน ก็อย่ามาทำลายระบบ ทำลายการพัฒนาฟุตบอลไทย ที่ต้องมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง
การเอาเป้าหมาย แชมป์ซีเกมส์ มาเป็นตัวตั้ง แล้ว เร่งลีกให้จบเร็ว เพื่อจะดึงนักฟุตบอล U23 ไปเล่นรายการซีเกมส์ เป็นแนวคิด ที่คนทำฟุตบอล คนรักฟุตบอล คนเข้าใจฟุตบอล และ คนที่ให้ความสำคัญกับ แฟนฟุตบอล เขาไม่ทำกัน
การเร่งเกมในลีกอาชีพ ให้ปิดเร็ว เพิ่มเกมกลางสัปดาห์ อีก 2 นัด ในช่วงท้ายฤดูกาล เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้นักฟุตบอลบาดเจ็บ และ ไม่สามารถลงสนามได้
ถ้าเกิดขึ้น ก็เสียหายทั้งทีมชาติ สโมสรต้นสังกัด และตัวนักฟุตบอล เอง แชมป์ซีเกมส์ มีความหมายกับสมาคมฯ มากถึงขนาดที่ สมาคมฯ ไม่สนใจลีกอาชีพ ไม่สนใจสโมสร ซึ่งเป็นรากฐานการพัฒนาฟุตบอลไทย แล้วหรือ ?
ถ้าคิดกันได้แค่นี้ ก็ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จที่พนมเปญ แต่ก็เลิกหลอกคนไทย ให้ฝันถึงฟุตบอลโลก เสียที
ฟุตบอลโลก เป็นเรื่องของมืออาชีพ ส่วน ซีเกมส์ เหมาะสมแล้วกับมือสมัครเล่น แบบสมาคม และ ผู้ใหญ่ในวงการกีฬาแบบไทยๆ