จากกรณีที่ศาลปกครองอุบลราชธานี ได้อ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งพิพากษาให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สมาคม) เพิกถอนมติหรือคำสั่งของสมาคมที่กำหนดเงื่อนไขให้ นายสมบัติ์ เกียรติสุรนนท์, นายสรศาสตร์ ศรีธัญรัตน์ และ นายธเนศ เครือรัตน์ ร่วมกันบริหารสโมสรฟุตบอลของบริษัท อีสาน ยูไนเต็ด จำกัด ผู้ฟ้องคดี และให้ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ฟ้องคดี เป็นเงินจำนวน 18.4 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 และร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 จนกว่าจะชำระเงินเสร็จ
ก่อนมีรายงานว่า องค์กรลูกหนังไทยกำลังเดือดร้อนจากคดีดังกล่าว เนื่องจากโดนอายัดบัญชีนั้น ล่าสุดมีการชี้แจงจากสมาคมฟุตบอลฯ ผ่านแฟนเพจอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยที่ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคม และสภากรรมการชุดเก่าเป็นผู้บริหาร พร้อมยืนยันว่าจะทำการไล่เบี้ยเอาจากสภากรรมการชุดเก่า โดยเนื้อหาสรุปประกอบด้วย
คำพิพากษาถึงที่สุด
27 กรกฎาคม 2565 ศาลปกครองอุบลราชธานี อ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซึ่งพิพากษายืนตามศาลปกครองอุบลราชธานี ในส่วนที่เกี่ยวกับการเพิกถอนมติหรือคำสั่งของสมาคม โดยให้สมาคมเพิกถอนมติหรือคำสั่งของสมาคมที่กำหนดเงื่อนไขให้ นายสมบัติ์ เกียรติสุรนนท์, นายสรศาสตร์ ศรีธัญรัตน์ และ นายธเนศ เครือรัตน์ ร่วมกันบริหารสโมสรฟุตบอลของบริษัท อีสาน ยูไนเต็ด จำกัด แต่พิพากษาแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเงินต้นและดอกเบี้ย โดยให้สมาคมชำระค่าสินไหมทดแทนแก่ บริษัท อีสาน ยูไนเต็ด จำกัด เป็นจำนวนเงิน 18,446,162.61 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 และร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 จนกว่าจะชำระเงินเสร็จ เมื่อคำนวณถึงปัจจุบัน จะเป็นเงิน 31 ล้านบาทเศษ
คดีเรื่องนี้ถึงที่สุดแล้วตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในวันที่ 20 กันยายน 2565 สมาคมได้พยายามเจรจาขอผ่อนผันการชำระหนี้ตามคำพิพากษากับ กรรมการบริษัท อีสาน ยูไนเต็ด จำกัด แล้วแต่ไม่เป็นผล
ต่อมา เงินของสมาคมซึ่งฝากไว้กับธนาคารถูกอายัด ส่งผลให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จำนวนเงินดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ ต้องสำรองเงินไว้เพื่อชำระค่าสินไหมทดแทนทั้งหมด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องชะลอการจ่ายเงินสนับสนุนของสโมสรสมาชิกในไทยลีกไว้ก่อน เพื่อชำระหนี้ให้กับ บริษัท อีสาน ยูไนเต็ด จำกัด จนครบจำนวนตามคำสั่งศาล
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เคารพและพร้อมดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยจะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด เพื่อให้ฟุตบอลไทยทั้งระบบเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลลีกอาชีพ ฟุตบอลยูธลีก การพัฒนาผู้ตัดสิน และผู้ฝึกสอน รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เหตุดังกล่าวเป็นผลจากการมีมติของสภากรรมการชุดเดิม ที่มี นายวรวีร์ มะกูดี เป็นนายกสมาคมฯ ซึ่งศาลพิพากษาว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นมติที่ก่อให้เกิดความเสียหาย และมิได้เกิดจากการบริหารกิจการของสภากรรมการชุดปัจจุบัน ทั้งนี้ สภากรรมการชุดปัจจุบันจำเป็นต้องไล่เบี้ยสภากรรมการชุดเก่าและผู้เกี่ยวข้อง ต่อไป