คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ค่ำคืนวันที่ 1 และ 2 พฤศจิกายนนี้จะเป็นการแข่งขันนัดที่ 6 นัดสุดท้ายของ รอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอล ยูเอ๊ฟฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022-23 (2022–23 UEFA Champions League) ซึ่งจะทำให้เราทราบผลชัดเจนว่าทีมใดจะได้เข้าไปเล่นในรอบ น้อค-เอ๊าท์ 16 ทีม ในปีหน้าโน่น เพราะเขาจะเว้นให้กระบวนการการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะมาถึงใน 3 สัปดาห์ข้างหน้า ที่ผมเขียนต้นฉบับตอนนี้ยังไม่มีการแข่งขันสักคู่ แต่เมื่อคอลัมน์นี้ปรากฏสู่สายตา แฟนบอลคงได้ทราบผลของกลุ่ม A B C และ D เรียบร้อยแล้ว เรามาคาดเดากันว่า 16 ทีมที่จะได้เข้ารอบน่าจะเป็นใครกันบ้าง
เงื่อนไขสำคัญบางประการที่ควรทราบก่อนคือ การนับคะแนนเพื่อจัดลำดับในรอบแบ่งกลุ่มนั้นคะแนน เฮ้ด-ทู-เฮ้ด (Head-to-head) มาก่อนคะแนนกลุ่ม ในการประกบคู่รอบ 16 ทีม เขาจะให้แช้มพ์แต่ละกลุ่มได้สิทธิ์เป็นทีมวาง รอเจอกับพวกรองแช้มพ์กลุ่มที่ไม่ได้มาจากกลุ่มเดียวกันหรือชาติเดียวกัน แถมได้เป็นเจ้าบ้านใน เล้กที่ 2 ที่ใครๆก็เชื่อว่าเป็นข้อได้เปรียบนิดหน่อยด้วย ส่วนในรอบ 8 ทีม กับ รอบรองชนะเลิศ ไม่มีทีมวาง ใครเจอกับใครก็ช่างมันแล้ว แต่จะกำหนดเลยว่าทีมชนะในรอบรองชนะเลิศซีกไหนจะได้สิทธิ์เสมือนเป็นทีมเหย้าในนัดชิงชนะเลิศ อันนี้เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการ ซึ่งแม้จะแข่งในสนามกลางก็จะมีทีมได้เปรียบกันบ้าง อย่างน้อยก็ได้สวมชุดทีมเหย้า
กลุ่ม A เหลือ นาโปลี (Napoli) แย่งแช้มพ์กลุ่มกับ ลิเว่อร์พูล (Liverpool) นัดแรก ลิเว่อร์พูล เจอ บัวผันฟันยับไป 4-1 ถ้าจะเอาแช้มพ์กลุ่มต้องกดสกอร์ชนะห่างถึง 4 เพราะกฎการทำประตูในฐานะทีมเยือนหรือ อะเวย์ โกล รูล (Away goals rule) ยกเลิกไปแล้ว ฟอร์มกำลังบู่เลย ยากครับ กลุ่ม B เหลือ คลึบ บรู๊คเค่อ (Club Brugge) กับ ปอรโต (Porto) แย่งแช้มพ์กลุ่มโดยต่างฝ่ายต่างต้องเจอกับทีมที่จะชิงพื้นที่ ยูโรปา ลีก (Europa League) งานยากพอกัน
กลุ่ม C แต้มขาดทุกทีมแล้ว บาแยร์น มึนเชิ่น (Bayern München) แช้มพ์กลุ่ม ต้อนรับ อินเตรนาซิโอนาเล (Internazionale) รองแช้มพ์กลุ่ม ไม่มีผลแล้ว อย่าโง่ ถนอมตัวเอาไว้เล่นบอลโลกกันดีกว่า กลุ่ม D ยังมีลุ้นทั้ง 4 ทีม มารแซ็ย (Marseille) บ๊วยสุด แต่แค่ชนะ จ่าฝูง ท้อทแน่ม ฮ้อทสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ในบ้านให้ได้ สถานการณ์พลิกทันที อีกคู่ สปอร์ติ้ง (Sporting) เฮ้ด-ทู-เฮ้ด ดีกว่า แค่ประคองตัวไม่แพ้ อายน์ทรัคท์ ฟรั้งค์ฝวต (Eintracht Frankfurt) คาบ้านก็ได้เข้ารอบแล้ว
กลุ่ม E เช็ลซี (Chelsea) ได้แช้มพ์กลุ่มแน่นอนแล้ว เหลือ มีลาน (Milan) แย่งอันดับ 2 กับ ซาลซ์บวก (Salzburg) มีลาน แค่ไม่แพ้คาบ้านให้ ทีมเครื่องดื่มชูกำลังจาก อ๊อสเตรีย ที่เจ้าของเพิ่งตายไปเมื่อ 10 วันก่อนก็จะได้เข้ารอบไปด้วย กลุ่ม F เรอัล มาดริด (Real Madrid) เข้ารอบไปแล้ว แต่ต้องยึดแช้มพ์กลุ่มชัวร์ๆด้วยการเปิดบ้านถล่ม เซ็ลติค (Celtic) ทีมบ๊วยที่หมดลุ้นทุกสิ่งอันแล้ว อีกคู่ ชัคตาร โดเน็ตสค์ (Шахтар Донецьк) เคยบุกไปถล่ม ไล้พ์ซิช (Leipzig) เละเทะ 4-1 มาแล้ว นัดนี้ต้องเอาชนะในบ้านตนเองเพื่อมี 9 แต้มเท่า และ เฮ้ด-ทู-เฮ้ด จะส่งผลให้เข้ารอบไป
กลุ่ม G นัดสุดท้ายจะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงอันดับใดๆ เพราะทุกทีมทิ้งช่วงห่าง 3 แต้มตั้งแต่จ่าฝูงลงไปถึงบ๊วย ซึ่งทีมอันดับดีกว่ามี เฮ้ด-ทู-เฮ้ด ที่เหนือกว่าทีมลำดับรอง แมนเช้สเต้อร์ ซิตี้ (Manchester City) เป็นแช้มพ์กลุ่ม ตามด้วย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) รองแช้มพ์กลุ่ม กลุ่ม H ทั้ง ปารี แซ็ง-แฌรแม็ง (Paris Saint-Germain) กับ เบ็งฟีกา (Benfica) ต่างก็ได้เข้ารอบแน่นอนแล้ว เหลือแย่งตำแหน่งแช้มพ์กลุ่ม มันยากตรงที่ทั้ง 2 ทีมต้องไปเยือนทีมที่ยังมีลุ้นพื้นที่ ยูโรปา ลีก แม้ เฮ้ด-ทู-เฮ้ด เท่ากันเป๊ะ แต่ เปแอ๊สเฌ (PSG) เหนือกว่าเรื่องผลต่างประตูรวม ถ้าทำผลงานในนัดสุดท้ายได้เท่ากันก็จบ 6 นัดในฐานะแช้มพ์กลุ่ม
เมื่อได้ 16 ทีมเข้ารอบ น้อค-เอ๊าท์ เรียบร้อย เขาจะจับสลากประกบคู่รู้กันในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้เลย แล้วไปแข่งกัน เล้กแรกในวันที่ 14-15 และ 21-22 กุมภาพันธ์ 2023 เล้กที่ 2 วันที่ 7-8 และ 14-15 มีนาคม 2023 หลังจากนั้นก็จับสลากประกบคู่รวบยอดทุกรอบไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศในวันที่ 17 มีนาคม 2023 เพื่อแข่งขันรอบ 8 ทีม เล้กแรก 11-12 เมษายน 2023 เล้กที่ 2 18-19 เมษายน 2023 รอบรองชนะเลิศ เล้กแรก 9-10 พฤษภาคม 2023 เล้กที่ 2 16-17 พฤษภาคม 2023 แล้วไปชิงชนะเลิศที่ อาตาตูรก์ โอลิมเปี๊ยต สตาเดะ (Atatürk Olimpiyat Stadı) ในเมืองอิ๊สตัมบูล (İstanbul) ประเทศทูรคิเอ (Türkiye) ในวันที่ 10 มิถุนายน 2023 ครับ