คลีฟแลนด์ บราวน์ส เอาชนะ ซินซินเนติ เบงกอลส์ รองแชมป์เก่า 32-13 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) "มันเดย์ ไนท์" ที่สนาม เฟิร์สท เอเนอร์จี สเตเดียม วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน
วันฮาโลวีนอันน่าขนลุก (31 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นครั้งแรกของซีซันซึ่ง บราวน์ส รวมพลังเล่นเหมือนทีมสมบูรณ์แบบทั้งรุก-รับ และทีมพิเศษ
ไมล์ส การ์เร็ตต์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ ซึ่งก้าวลงสนามด้วยเครื่องแต่งกายตามเทศกาล รับบทผู้นำทีมรับที่เล่นงาน โจ เบอร์โรว์ ควอเตอร์แบ็ก 5 แซ็ก และเสียระยะแก่ทีมบุก ซินซินเนติ (สถิติชนะ 4 แพ้ 4) รวม 229 หลา ตลอดเกม (100 หลา เฉพาะครึ่งแรก)
เบอร์โรว์ ซึ่งทะลุถึง ซูเปอร์โบว์ล ด้วยเวลาเพียง 3 ซีซัน แต่ยังไม่เคยเอาชนะ คลีฟแลนด์ สถิติ 0-4 ตลอดอาชีพ เฉพาะเกมพบ คลีฟแลนด์ คู่ปรับร่วมดิวิชัน เอเอฟซี (AFC) เหนือ
"เจ้าตูบ" หยุดสถิติแพ้ 4 เกมรวด และอยู่ระหว่างยื้อความหวังติดพื้นที่เพลย์ออฟ และรอคอย เดอชอน วัตสัน ควอเตอร์แบ็กตัวจริง พ้นแบน 11 เกม
จาโคบี บริสเซตต์ ควอเตอร์แบ็ก วิ่งและขว้างอย่างละ 1 ทัชดาวน์ นำ คลีฟแลนด์ ยัดเยียดความปราชัย 5 เกมติดต่อกันแก่ ซินซินเนติ แบบเฮด-ทู-เฮด ปาบอลเข้าเป้า 17 จาก 22 ครั้ง ระยะ 278 หลา
นิค ชับบ์ รันนิงแบ็ก วิ่ง 1 จาก 2 ทัชดาวน์ ระยะ 3 หลา, บริสเซตต์ วิ่งเพิ่มอีก 1 สกอร์ ระยะ 3 หลา และ ขว้างบอลให้ อมารี คูเปอร์ รับทัชดาวน์ 4 หลา ช่วงครึ่งหลัง ทำให้ คลีฟแลนด์ ขึ้นนำ 25-0
เบอร์โรว์ นัมเบอร์วันดราฟต์ ปี 2020 ซึ่งปราศจากปีกนอกคู่หู จา'มาร์ เชส บาดเจ็บสะโพก ถูกทีมรับกดดันแทบทั้งเกม ขว้างคอมพลีต 25 จาก 35 ครั้ง ระยะ 232 หลา 2 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์
ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยหลุยเซียนา สเตท ขว้าง 2 สกอร์ช่วงควอเตอร์ 4 ให้ ไทเลอร์ บอยด์ กับ ที ฮิกกินส์ ซึ่งมีผลแค่ยกระดับสถิติส่วนตัว และรับรางวัลปลอบใจ