สเตฟอน กิลมอร์ คอร์เนอร์แบ็ก ปัดบอลขว้างของ รัสเซลล์ วิลสัน ควอเตอร์แบ็ก ให้ คอร์ตแลนด์ ซัตตัน ปีกนอก ตรงเขตเอนด์ โซน ในการเล่นดาวน์ที่ 4 ต้องการ 1 หลา ทำให้ อินเดียนาโปลิส โคลท์ส แซงชนะ เดนเวอร์ บรองโกส์ ช่วงต่อเวลาพิเศษ 12-9 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) "เธิร์สเดย์ ไนท์" ที่สนาม เอ็มเพาเวอร์ ฟิลด์ แอท ไมล์ ไฮ วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม
กิลมอร์ อดีตผู้เล่น นิว อิงแลนด์ แพทริออตส์ ยังเป็นคนอินเทอร์เซ็ปต์บอลขว้างของ วิลสัน ช่วงควอเตอร์ 4 นำไปสู่ฟิลด์โกลตีเสมอของ เชส แม็คลอฟลิน
แม็คลอฟลิน หวดฟิลด์โกลระยะ 47 หลา หลังเริ่มการแข่งขันช่วงต่อเวลา 4 นาที 10 วินาที ส่งผลให้ โคลท์ส (สถิติ ชนะ 2 แพ้ 2 เสมอ 1) ขึ้นนำครั้งแรก ในเกมประวัติศาสตร์ของ NFL ซึ่งควอเตอร์แบ็กทั้ง 2 ทีมติด โพร-โบว์ล อย่างน้อยคนละ 4 สมัย แต่ไม่สามารถทำทัชดาวน์ได้
บรองโกส์ (สถิติ ชนะ 2 แพ้ 3) เมินเรียกใช้ แบรนดอน แม็คมานัส ลงมาเตะฟิลด์โกลตีเสมอ และ วิลสัน จัดระบบ ช็อตกัน ยืนจรดตำแหน่งใกล้ๆ เมลวิน กอร์ดอน รันนิงแบ็ก แล้วขว้างเจาะตรงกลางกลายเป็นอินคอมพลีต
แม็ตต์ ไรอัน ควอเตอร์แบ็ก โคลท์ส พาทีมชนะแบบหืดจับ ถึงแม้เสีย 2 อินเทอร์เซ็ปต์ ให้ คาเดน สเติร์นส ทั้งหมด, เสียฟัมเบิล (บอลหลุดจากการครอบครอง) ครั้งที่ 10 ของฤดูกาล และถูกแซ็กอีก 6 ครั้ง รวม 21 ครั้ง หลังจบการแข่งขันสัปดาห์ที่ 5
แม็คลอฟลิน หวดฟิลด์โกล 31 หลา เหลือเวลาปกติ 5 วินาที ตีเสมอ 9-9 หลัง กิลมอร์ อินเทอร์เซ็ปต์บอลขว้างของ วิลสัน ให้ เจอร์รี จิวดี ตรงเขต เอนด์ โซน ในการเล่นดาวน์ที่ 3 ต้องการ 4 หลา ตรงเส้น 13 หลา แดนอินเดียนาโปลิส
ฟิลด์โกลลูกดังกล่าวเป็นการไดรฟ์การบุกอันยาวนานสุดของ อินเดียนาโปลิส เฉพาะเกมนี้ รวม 10 เพลย์ ระยะ 68 หลา จากนั้น ทีมของ แฟรงค์ ไรช์ ชนะการเสี่ยงทายเหรียญช่วงต่อเวลา และ ไรอัน ขับเคลื่อนทีมบุกมาถึงระยะเตะฟิลด์โกลอีกครั้ง
การทำสกอร์ก่อนพักครึ่งมาจากฟิลด์โกลทั้งหมด แบ่งเป็นระยะ 33 กับ 44 หลาของ แม็คมานัส และ 52 หลาของ แม็คลอฟลิน เหลือเวลา 12 วินาทีสุดท้ายของควอเตอร์ 2 หมดครึ่งแรก บรองโกส์ ขึ้นนำ 6-3