สมเกียรติ จันทรา นักบิดสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย จบอันดับ 5 การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ รุ่นโมโต ทู รายการ "เจแปนีส กรังปรีซ์" ที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ ไอ โอกูระ เจ้าถิ่น คว้าแชมป์สนามที่ 3 ของฤดูกาล 2022
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบ เก็บคะแนนสะสมชิงแชมป์โลก รุ่นโมโต ทู สนามที่ 16 ของปี 2022 รายการ "เจแปนีส กรังปรีซ์" ณ สนาม โมบิลิตี รีสอร์ต โมเตกิ ระยะทางต่อรอบ 4.8 กิโลเมตร วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน เป็นการประลองความเร็ว รอบชิงชนะเลิศ รวม 22 รอบสนาม โดย สมเกียรติ จันทรา นักแข่งความหวังของไทย ควอลิฟายเป็นอันดับ 4
สิ้นสัญญาณไฟแดง 5 ดวง สมเกียรติ จันทรา พุ่งจากแถวที่ 2 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 หลังพ้นโค้งแรก ถัดมาประมาณ 2 รอบ เฟร์มิน อัลเดเกร์ นักบิดชาวสเปน ซึ่งอยู่อันดับ 2 เสียหลักล้มจังหวะเข้าโค้ง และรอบต่อมา อารอน คาเนต เจ้าของ โพล โพซิชัน ซึ่งทิ้งห่าง สมเกียรติ อยู่ประมาณ 1.8 วินาที ล้มเองจนเสียตำแหน่งผู้นำ
สมเกียรติ วัย 23 ปี ยึดตำแหน่งผู้นำแบบส้มหล่นเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนถูกแซงโดย อลอนโซ โลเปซ, ไอ โอกูระ เพื่อนร่วมทีม , โทนี อาร์โบลิโน, ออกุสโต เฟร์นานเดซ และ เจค ดิ๊กซัน หล่นลงมาอันดับ 6 แต่ยังทวงคืนได้ 1 อันดับ จบเรซอันดับ 5 เก็บเพิ่ม 11 แต้ม รวมมี 120 แต้ม รั้งอันดับ 9 ของตารางคะแนนสะสม ประเภทบุคคล
ด้าน โอกูระ คู่หูของ สมเกียรติ ซึ่งออกตัวกริด 13 รับธงตาหมากรุกคนแรก เวลารวม 40 นาที 56.269 วินาที เร็วกว่าอันดับ 2 ออกุสโต เฟร์นานเดซ สังกัด เรด บูลล์ เคทีเอ็ม 1.192 วินาที กลายเป็นนักบิดเลือดซามูไรคนแรก ซึ่งเข้าวินรายการนี้ นับตั้งแต่ ฮิโรชิ อาโอยามา เมื่อปี 2006
ส่วน เขมินท์ คูโบะ นักแข่งลูกครึ่ง ไทย-ญี่ปุ่น สังกัด ยามาฮ่า วีอาร์ 46 มาสเตอร์ แคมป์ ทีม จบเรซอันดับ 18 คะแนนสะสมยังอยู่ที่ 4 แต้ม เท่าเดิม
ขณะเดียวกัน โอกูระ เจ้าของรถหมายเลข 79 ยังเก็บเพิ่มอีก 25 คะแนน รวมมี 232 แต้ม กวด เฟร์นานเดซ ผู้นำคะแนนสะสม ประเภทบุคคล เหลือ 2 แต้ม ก่อนย้ายมาแข่งขันต่อ รายการ "ไทยแลนด์ กรังปรีซ์" ที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ 2 ตุลาคม
We're expecting big things next week Chantra 💪#JapaneseGP 🇯🇵 pic.twitter.com/T92VMZU3NY— MotoGP™🏁 (@MotoGP) September 25, 2022
The first home rider to win in Japan since 2006 🏆@AiOgura79 has made history at the #JapaneseGP 🇯🇵#Moto2 pic.twitter.com/TjHm4zLOga— MotoGP™🏁 (@MotoGP) September 25, 2022