คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
เหลืออีกไม่กี่วัน ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) กำลังจะเปิดฤดูกาลปกติ 2022 ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 9 กันยายน ตามเวลาบ้านเรา สัปดาห์นี้จึงอยากมุ่งเป้าที่ แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส แฟรนไชส์ของ ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งถูกยกให้เป็นตัวเต็งคว้าแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล LVII ทีมหนึ่ง ตามราคาพูล และสิ่งใดที่ต่ำกว่านั้น ย่อมถือว่าล้มเหลว
ทอม เบรดี ควอเตอร์แบ็กว่าที่ตำนาน ใช้คำว่า “unfinished business หรือ ติดภารกิจที่ค้างคา” เป็นเหตุผลหลักที่เขาจบการปลดเกษียณตัวเองเพียง 40 วัน อาจสื่อความหมายว่า เขายังคงถูกความปราชัยแก่ แอลเอ แรมส์ 27-30 รอบดิวิชันแนล สายเอ็นเอฟซี (NFC) ตามหลอกหลอน บวกกับการให้สัมภาษณ์ โจอี้ ไนท์ ผู้สื่อข่าว แทมปา เบย์ ไทม์ส ทางรายการพ็อดแคสต์ “Let's Go!” ระบุว่า “ใช่ ผมมีสิ่งที่ต้องพิสูจน์อีกมากมายฤดูกาลนี้ ผมอยากแสดงให้เห็นว่า ผมยังสามารถนำทีมๆ หนึ่งเป็นแชมป์ได้”
ถึงแม้ เบรดี จะกล่าวแบบนั้น แต่ความจริงเขาไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ในฐานะ GOAT หรือ สุดยอดตลอดกาล ของแฟนๆ อเมริกันฟุตบอล อยู่แล้ว สัมผัสโทรฟี “วินซ์ ลอมบาร์ดี” มากกว่า 1 แฟรนไชส์, ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ซูเปอร์โบว์ล 5 สมัย กับ ฤดูกาลปกติ 3 สมัย และผลงานฤดูกาลที่แล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าจะถดถอย ขว้างคอมพลีตสูงสุดของลีก 67.5 เปอร์เซ็นต์ ระยะสูงสุด 5,316 หลา 43 ทัชดาวน์ เสีย 12 อินเทอร์เซ็ปต์
ไม่มีข้อสงสัยใดๆ สำหรับ เบรดี ในแง่ของสภาพร่างกาย ซึ่งเขาคุยโวไว้ว่า สามารถปักหลักขว้างบอลได้ถึงอายุ 50 แม้จะเป็นไปได้ยากบนโลกแห่งความจริง ขณะที่ บัคคาเนียร์ส ยังมีขุมกำลังทีมบุกอันน่ากลัว ซึ่งน่าจะปล่อยของอย่างเต็มที่ เมื่อมี ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ทำหน้าที่ผู้บัญชาการ บวกกับประสบการณ์ และความสามารถในการรับมือความกดดันของเขายังพอช่วยแบกทีมได้
พิจารณาตัวผู้เล่นทีมบุก แทมปา เบย์ เสีย ร็อบ กรอนคอฟสกี ไทต์เอนด์, อเล็กซ์ แก็ปปา, อาลี มาร์เพ็ต และ โรนัลด์ โจนส์ อำลาถิ่น เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม เรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาได้ตัวดังอย่าง ฮูลิโอ โจนส์ ปีกนอก เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการทำสกอร์บริเวณ “เรด โซน (เส้น 20 หลา แดนคู่ต่อสู้)” ทดแทน อันโตนิโอ บราวน์ ปีกเจ้าปัญหา และ คาเมรอน เบรต ไทต์เอนด์ จะมีบทบาทมากขึ้น หลัง กรอนคอฟสกี เลิกเล่น และ โอ.เจ. ฮาเวิร์ด ย้ายออกไป ซึ่งทั้งคู่ตกเป็นเป้าขว้างบอลรวมกัน 110 ครั้ง ระยะ 937 หลา 7 ทัชดาวน์ ฤดูกาล 2021 ที่ผ่านมา
จุดที่น่าเป็นห่วงอยู่ที่ตำแหน่ง ออฟเฟนซีฟ ไลน์แมน หรือ 5 ผู้พิทักษ์ เบรดี ซึ่งขาดตัวหลักอย่าง ไรอัน เจนเซน เซ็นเตอร์ดีกรี โพร โบว์ล กับ แอรอน สตินนี การ์ดด้านซ้าย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันด้านบอด (blindside) ของควอเตอร์แบ็กถนัดขวา บาดเจ็บเข่าทั้งคู่ ตามด้วย โรเบิร์ต เฮนซีย์ ตัวแทนของ เจนเซน บาดเจ็บข้อเท้าซ้ายเกมสุดท้ายของพรีซีซัน พบ อินเดียนาโปลิส โคลท์ส, นิค เลเวอเรตต์ ตัวสำรองการ์ดซ้าย ถูกขยับเข้ามายืนเซ็นเตอร์เฉพาะกิจ บาดเจ็บหัวไหล่เกมเดียวกันส่งผลให้ บัคส์ ต้องพึ่งพา จอห์น โมลชอน เซ็นเตอร์ตัวเลือกที่ 4
นอกเหนือจากลิสต์ดังกล่าว ทริสตัน เวิร์ฟส แท็คเกิลซ้ายดีกรี โพร โบว์ล ยังไม่ถูกใช้งานเกมพรีซีซัน ชนะ อินเดียนาโปลิส 27-10 เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้ออ็อบลิค (ท้องด้านข้าง) ถึงแม้สามารถลงมาอบอุ่นร่างกายก่อนคิกออฟได้ แต่ยังต้องพิจารณาอาการแบบวันต่อวัน ส่วนทีมรับแม้ว่าจะเสียตัวเก๋าๆ อาทิ จอร์แดน ไวท์เฮด, ริชาร์ด เชอร์แมน, เอ็นดามูกอง ซูห์, เจสัน ปิแอร์-พอล แต่ก็เป็นกลุ่มผู้เล่นที่ผลงานต่ำกว่าความคาดหวัง กลายเป็นโอกาสที่คนอื่นๆ จะก้าวมาทดแทน แต่เรื่องคุณภาพต้องพิจารณายาวๆ
ไมค์ เอ็ดเวิร์ดส เซฟตีระดับ บอลล์ ฮอว์กส หรือ สามารถตัดสินเกมด้วยการเรียกเทิร์นโอเวอร์ หรือหยุดการเปลี่ยนเป็นดาวน์ที่ 1 เป็นหนึ่งในกองหลังของ บัคส์ ซึ่งเหลือสัญญาปีเดียว จึงต้องพิสูจน์ฝีมือในบทบาทตัวจริงอย่างเต็มตัว ฤดูกาล 2022 เพื่อโอกาสเซ็นระยะยาว
ตำแหน่งเฮดโค้ช บรูซ เอเรียนส์ วางมือจากงานคุมทีม แล้วขยับขึ้นสู่ ฟรอนท์ ออฟฟิศ (ส่วนบริหารจัดการ) ของแฟรนไชส์ หลังถูกแฟนๆ “โจรสลัด” วิพากษ์วิจารณ์ด้านการเล่นแบบอนุรักษ์นิยมมากเกินไปช่วงบั้นปลายยุคของเขา แต่คนที่เข้ามาแทนอย่าง ท็อดด์ โบว์ลส อดีตโค้ชทีมรับ ยังกลายเป็นเครื่องหมายคำถาม เนื่องจากผลงานย่ำแย่ สมัยคุม นิว ยอร์ก เจ็ตส์ ชนะ 24 แพ้ 40 ตลอด 4 ซีซัน แถมโปรแกรมของ บัคคาเนียร์ส จัดว่าหินเอาการ เจอทั้ง ดัลลัส คาวบอยส์, นิว ออร์ลีนส์ เซ็นต์ส, กรีน เบย์ แพ็คเกอร์ส และ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ตลอด 4 เกมแรก
พิจารณาภาพรวม บัคคาเนียร์ส มีการเปลี่ยนแปลงจุดสำคัญๆ ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะเฮดโค้ชบวกกับโปรแกรมแข่งขันที่จัดว่ายากสุดอันดับ 4 ของลีก และปัญหาการบาดเจ็บของผู้เล่นแนวป้องกัน อาจส่งผลกระทบต่อทีมจนเกิดอาการ slow start หรือ เครื่องติดช้า แถม นิว ออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ยังเปรียบเสมือนกระดูกชิ้นโต ตามสถิติแบบเฮด-ทู-เฮด ที่เหนือกว่า ชนะ 7 จากการพบกัน 8 ครั้งล่าสุด แต่ด้วยศักยภาพของผู้เล่น เชื่อว่าพวกเขาจะยังประคองตัวติดโควตาเพลย์ออฟได้ แต่จะถึงแชมป์หรือไม่ ต้องค่อยๆ ดูกันไปเกมต่อเกม