แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นสโมสรที่ใช้จ่ายเงินมากสุด ช่วงเส้นตายตลาดนักเตะฤดูร้อน วันที่ 1 กันยายน หลังปิดดีล แอนโทนี แนวรุก อาแจ็กซ์ 82 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,490 ล้านบาท) ขณะที่การเสริมทัพอย่างบ้าคลั่งของ เชลซี ยุติลงด้วยการคว้า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าจอมเก๋า
สโมสรระดับ พรีเมียร์ ลีก สวนกระแสวิกฤติค่าครองชีพของ สหราชอาณาจักร รายจ่ายรวมกัน 2,000 ล้านปอนด์ (ราว 85,000 ล้านบาท) เฉพาะ 1 รอบการซื้อ-ขาย ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลเดิม 1.86 พันล้านปอนด์ (79,000 ล้านบาท) ฤดูกาล 2017-18
ตามสถิติวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (1 ก.ย.) รายจ่ายรวมของ 20 สโมสร พรีเมียร์ ลีก เท่ากับ 1.5 พันล้านปอนด์ (64,000 ล้านบาท) แซงปี 2017 มูลค่ารวม 1.43 พันล้านปอนด์ (61,000 ล้านบาท) ในการย้ายสังกัดวันสุดท้าย
เอริก เทน ฮาก กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด มีบทบาทสำคัญต่อยอดใช้จ่ายดังกล่าว หลังดึง แอนโทนี ลูกน้องเก่าสมัยคุม อาแจ็กซ์ กลับมาร่วมงานกัน ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ขณะเดียวกัน จอมเลื้อยวัย 22 ปี ยังกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดอันดับ 4 ของประวัติศาสตร์
"ปิศาจแดง" ดำเนินการเสริมทัพแบบฝุ่นตลบ คว้า คาเซมิโร มิดฟิลด์ รีล มาดริด 60 ล้านปอนด์ (2,550 ล้านบาท) กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลัง อาแจ็กซ์ 56 ล้านปอนด์ (2,380 ล้านบาท)
นอกจากนี้ เทน ฮาก วัย 52 ปี ยังปิดดีลผู้เล่นอีก 1 คน แบบย่อมเยา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (1 ก.ย.) ยืมตัว มาร์ติน ดูบราฟกา นายทวาร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มานั่งสำรอง ดาบิด เด เคอา มือกาวชาวสเปน กระทั่งจบฤดูกาล 2022-23
ถึงกระนั้นรายจ่ายของ ยูไนเต็ด ยังด้อยกว่าเมื่อเทียบกับ เชลซ๊ ซึ่งทุ่มเงินราว 240 ล้านปอนด์ (10,200 ล้านบาท) ภายใต้การบริหารปีแรกของ ท็อดด์ โบห์ลี เจ้าของทีมชาวอเมริกัน
นอกจาก "สิงโตน้ำเงินคราม" ยืนยันเซ็นสัญญา เวสลีย์ โฟฟานา ปราการหลัง เลสเตอร์ ซิตี ค่าตัว 70 ล้านปอนด์ (2,980 ล้านบาท) วันพุธที่ผ่านมา (31 ส.ค.) โธมัส ตูเคิล กุนซือชาวเยอรมัน ยังได้หวนร่วมงาน โอบาเมยอง ดาวยิงชาวกาบอง ซึ่งเคยปลุกปั้นจนโด่งดังสมัยคุม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
หัวหอกวัย 33 ปี รีเทิร์นสู่สังเวียน พรีเมียร์ ลีก รอบ 9 เดือน ด้วยค่าตัว 10.3 ล้านปอนด์ (440 ล้านบาท) นับตั้งแต่แยกทาง อาร์เซนอล เดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากขัดแย้งกับ มิเกล อาร์เตตา กุนซือชาวสเปน
แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่า เพิ่มตัวเลือกแนวรับด้วยการคว้า มานูเอล อคานจี เซ็นเตอร์แบ็ก ดอร์ทมุนด์ ค่าตัว 17 ล้านปอนด์ (720 ล้านบาท) เซ็นสัญญากัน 5 ปี หลัง เอย์เมอริค ลาปอร์ต กับ นาธาน อาเก ได้รับบาดเจ็บ
ด้าน ลิเวอร์พูล เคลื่อนไหววินาทีสุดท้าย หลังเผชืญวิกฤติแดนกลาง ยืมตัว อาร์ธูร์ เมโล มิดฟิลด์ ยูเวนตุส 1 ฤดูกาล
เลสเตอร์ฯ แชมป์พรีเมียร์ ลีก 2015-16 เคลื่อนไหวทันที หลังเสีย โฟฟานา ไป เชลซี คว้า วูท ฟาเอส ปราการหลังชาวเบลเยียม จาก แรงส์ สโมสรของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส เป็นนักเตะใหม่คนแรกช่วงซัมเมอร์นี้
ฟูแลม น้องใหม่ คว้า เลย์วิน คูร์ซาวา แบ็กซ้าย ปารีส แซงต์ แชร์แมง กับ แดเนียล เจมส์ ปีกความเร็วจัด ลีดส์ ยูไนเต็ด แบบยืมตัว และดึง วิลเลียน ปีกจอมเก๋า กลับสู่พรีเมีบร์ ลีก หลังนักเตะแยกทาง โครินเธียนส์ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเซ็นสัญญากัน 1 ปี
ส่วน อิดริสซา กานา เกย์ มิดฟิลด์ชาวเซเนกัล ย้ายจาก ปารีส แซงต์ แชร์แมง กลับ เอฟเวอร์ตัน ค่าตัวเล็กๆ น้อยๆ เซ็นสัญญากัน 2 ปี หลังเคยค้าแข้งถิ่น กูดิสัน ปาร์ก ตั้งแต่ปี 2016-2019 ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน คว้า บิลลี กิลมอร์ มิดฟิลด์ เขลซี ค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์ (320 ล้านบาท)
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ปล่อย ลีแอนเดอร์ เดนดองค์เกอร์ มิดฟิลด์ชาวเบลเยียม ไป แอสตัน วิลลา ค่าตัว 13 ล้านปอนด์ (550 ล้านบาท) และ เซาแธมป์ตัน คว้า ซามูเอล เอโดซี กับ ฮวน ลาริออส 2 ดาวรุ่ง แมนฯ ซิตี รวมกัน 16 ล้านปอนด์ (680 ล้านบาท), ดูเย คาเลตา-คาร์ กองหลัง โอลิมปิก มาร์กเซย และยืมตัว เอนสลีย์ เมตแลนด์-ไนล์ส จาก อาร์เซนอล