คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
เช้านี้ พี่หมอนั่งทอดหุ่ย จิบกาแฟ รอเดินทางไปออกรอบตามเคย พลัน! เจ้าเก่งกระหืดกระหอบเข้ามาแจ้งข่าว “เฮียตกกระได พี่หมอช่วยไปดูหน่อย
ปรากฏว่า คุณชูสง่า ก้าวพลาดบันไดขั้นสุดท้าย เข่าขวากระแทกปวดบวมเดินกระเพลก สรุปว่าวันนี้รถไปส่งโรงพยาบาลแทนสนามกอล์ฟ ดีที่เอ็กซเรย์แล้วกระดูกไม่แตกเพียงแต่ชอกช้ำปวดบวมจากแรงกระแทก เฮียบ่นเสียดายที่ต้องงดออกรอบไปอีกพักใหญ่ “ถือว่าพักฝน” ก็แล้วกันพอดีหน้าฝนด้วย” เจ้าเก่งพูดปลอบใจ “เออ!ใช่...แต่ถ้าหยุดนานเฮียกลัวเส้นยึด ขาลีบ เหมือนโปรฯโย่งเพื่อนเฮีย” คุณชูสง่าพูดด้วยเห็นความสำคัญของขาที่ต้องแข็งแรงแม้ในคนสูงวัย
เดินๆๆเดินให้ได้ทุกวัน เพื่อขาทีแข็งแรงและอายุยืน ธรรมชาติกำหนดให้เท้าทำหน้าที่เป็นผู้รับใช้ตลอดชีวิต ชีวิตจะร่วงโรยจากความแก่ชรา เขาว่าจะเริ่มจากเท้าขึ้นมา ดังนั้นจงทำให้ขาทั้งสองของเราแข็งแรงและคล่องแคล่วว่องไวอยู่เสมอ หมายความว่า ในขณะที่เราร่วงโรยลงทุกวัน แต่ขาทั้งสองของเราต้องแข็งแรงอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ควรไปกังวลกับผมเผ้าที่เปลี่ยนเป็นสีดอกเลา ผิวหนังและผิวหน้าที่เหี่ยวย่น
Prevention วารสารชื่อดังของสหรัฐ ได้สรุปว่า คนที่จะมีอายุยืนยาวนั้น การมีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ดังนั้น จงออกกำลังด้วยการเดินทุกวัน หากคุณไม่ขยับแข้งขยับขาแค่สองอาทิตย์ ความแข็งแรงของขาของคุณจะลดลงไปถึง 10 ปี
มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนที่เดนมาร์กได้ศึกษา พบว่า ไม่ว่าคนหนุ่มหรือคนแก่หากไม่เคลื่อนไหวตัวเองเลยราวสองสัปดาห์จะทำให้กล้ามเนื้อขาอ่อนแอลงไปราว 1 ใน 3 ซึ่งเทียบเท่ากับการชราภาพลงไปถึง 20-30 ปี เลยทีเดียว ดังนั้น จงออกแรงเดินเสมอ
เมื่อกล้ามเนื้อขาเราอ่อนแอลง การฟื้นตัวจะใช้เวลานานมาก แม้ว่าเราจะพยายามฟื้นฟูร่างกายและออกกำลังกายในภายหลังก็ตามด้วยเหตุนี้ การออกกำลังกายด้วยการเดินเสมอจึงสำคัญมาก ดังนั้นจงตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป
ขาทั้งสองทำหน้าที่เป็นเสาหลัก ประคองและรับน้ำหนักตัวทั้งหมดของเราไว้ ดังนั้นจงเดินต่อไปและ ที่หน้าสนใจคือ 50% ของกระดูกและ 50% ของกล้ามเนื้อ อยู่ที่ขาทั้งสองของเรากระดูกขาที่แข็งแรงและข้อต่อที่ยืดหยุ่นของขาจึงเป็นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวของร่างกายและสามารถยกรถยนต์ขนาดเล็กที่หนักได้ถึง 800 กก.ในวัยหนุ่มสาว นอกจากนั้น 70%ของกิจกรรมทางร่างกายและการเผาพลาญพลังงานใช้ขาทั้ง 2 เป็นหลัก ทั้งนี้เพราะ 50% ของเส้นประสาทและ 50% ของระบบไหลเวียนโลหิตผ่านขาและเท้าทั้งคู่ ดังนั้นเมื่อเท้าทั้งสองแข็งแรงก็จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี เชื่อมโยงทั้งร่างกายและทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นด้วย
เมื่ออายุมากขึ้นความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูกจะลดลงไปตามกาลเวลา ทำให้คนแก่กระดูกหักได้ง่าย รู้กันบ้างไหมว่า15% ของคนแก่ที่กระดูกสะโพกหรือต้นขาหัก จะเสียชีวิตในเวลาไม่เกินหนึ่งปี ดังนั้น การเดินออกกำลัง ไม่มีคำว่าสายไป แม้คุณอายุเกิน60ไปแล้ว เพราะการเดินถือเป็นภารกิจตลอดชีวิตของเรา จงเดินให้ถึงวันละ 10,000 ก้าว