คาราเต้ไทยแลนด์โอเพ่นกลับมาจัดครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยหนนี้ได้ จ.ภูเก็ต รับเป็นเจ้าภาพ สุดพิเศษกับการจัดแคมป์เพื่อนักกีฬาทีมชาติไทยด้วยการร่วมฝึกซ้อมกับชาติระดับโลก พร้อมกันนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีชาติจาก ยุโรป และ อเมริกาใต้ เข้าแข่งขันด้วย ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็น 5 รุ่น นักกีฬารวมกว่า 400 คน ชิงเงินรางวัลรวม 100,000 บาท
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65 ที่อาคารการกีฬาแห่งประเทศไทย ชั้น 24 ได้มีการจัดงานแถลงข่าวการแข่งขันคาราเต้ไทยแลนด์โอเพ่น โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, ณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ พล.อ.สุรชาติ จิตต์แจ้ง นายกสมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลง
สมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย ร่วมมือกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย และ จังหวัดภูเก็ต โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จัดการแข่งขันคาราเต้ไทยแลนด์โอเพ่น ระหว่างวันที่ 19-23 ส.ค.2565 ชิงเงินรางวัลรวม 100,000 บาท จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยมี 22 ชาติเข้าร่วมประกอบด้วย แอลจีเลีย, ออสเตรเลีย, บราซิล, อังกฤษ, เยอรมัน, ฮ่องกง, อินเดีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, ลักเซมเบิร์ก, มาเลเซีย, เนปาล, เนเธอร์แลนด์, ฟิลิปปินส์, ไทย, เวียดนาม, เมียนมาร์, กัมพูชา, บังกลาเทศ, บรูไน, ลาว และ สิงคโปร์ แบ่งการแข่งขันออกเป็น 5 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี, รุ่นอายุไม่เกิน 14, รุ่นคาเด็ด (รุ่นอายุ 15 ปี), รุ่นจูเนียส์ (อายุไม่เกิน 18 ปี) และ รุ่นทั่วไป มีนักกีฬารวมกว่า 400 คน อีกทั้งการแข่งขันคาราเต้ไทยแลนด์โอเพ่นหนนี้จะมีแคมป์พิเศษให้นักกีฬาทีมชาติไทยได้ร่วมซ้อมกับนักกีฬาระดับโลกก่อนแข่งขันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวของบรรดานักกีฬาระดับโอลิมปิก, ชิงแชมป์โลก และ เวิลด์เกมส์
พล.อ.สุรชาติ จิตต์แจ้ง นายกสมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแข่งขันคาราเต้ไทยแลนด์โอเพ่น ถือว่าเป็นรายการใหญ่ของไทย เพราะเป็นแมตช์ที่รวบรวมบรรดานักกีฬาคาราเต้ระดับโลก มาแข่งที่ประเทศไทย ซึ่งเราจัดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่ในช่วงหลังที่เกิดสถานการณ์โควิดทำให้เราว่างเว้นไปถึง 2 ปี จึงทำให้การกลับมาจัดในครั้งนี้จะพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะมีนักกีฬาระดับแชมป์โลก และแชมป์โอลิมปิก เดินทางมาแข่งที่ไทย ซึ่งจะทำให้บรรดานักกีฬาไทย และเยาวชนที่เข้าแข่งขันจะได้เห็นฝีไม้ลายมือของนักกีฬาเหล่านี้แบบสดๆติดขอบสนาม ส่วนเรื่องสถานที่นั้นก็ได้ จ.ภูเก็ต เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ขณะที่นักกีฬาไทยนั้น ไม่ว่าจะรุ่นเล็ก หรือ รุ่นใหญ่ ก็มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งกับการแข่งขันนี้ แล้วจะเป็นการเตรียมความพร้อมของนักกีฬาทีมชาติไทยในการแข่งขันซีเกมส์และเอเชียนเกมส์ในปีหน้าอีกด้วย