คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ยังไม่รอด สำหรับสหพันธ์มวยสมัครเล่นนานาชาติ หรือ “ไอบ้า” ที่ถูกไอโอซี หรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ประกาศเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่ายังคงไม่ให้สิทธิ์กลับมาจัดรายการมวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิก “ปารีส 2024” ทั้งการจัดการแข่งขันรอบคัดเลือก และการจัดการแข่งขันในโอลิมปิก โดยทาง “ไอโอซี” บอกว่ายังไม่มั่นใจในการบริหารจัดการของไอบ้า เพราะไอบ้ายังไม่มีแผนการที่ชัดเจนว่าจะจัดการแข่งขันรอบคัดเลือกที่ไหนบ้าง อย่างไรบ้าง (ส่วนหนึ่งก็ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย เพราะทางไอบ้าก็ยังไม่รู้ว่าจะได้สิทธิ์จัดหรือไม่ ก็ยังไม่ทำอะไร) รวมทั้งยังไม่มั่นใจในการบริหารงานของไอบ้า การแก้ไขปัญหาด้านการตัดสิน และเรื่องการเงินก็ยังพึ่งพาอาศัยเงินที่ได้จาก “กาซปรอม” รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซียเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถหาสปอนเซอร์มาเลี้ยงตัวเองได้ดีพอ
อันที่จริงทาง “ไอบ้า” นั้นพยายามดิ้นรนแก้ไขความเละเทะทั้งหลายในองค์กรไปหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการเงินที่เคยประสบปัญหาเกือบล้มละลาย เรื่องความโปร่งใสในการจัดการแข่งขันและการตัดสิน โดยพยายามให้การจับสลากมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น แก้ปัญหาการคัดเลือกกรรมการลงตัดสินและให้คะแนนในมวยคู่ต่างๆ มีการเปิดเผยการให้คะแนนจากกรรมการในแต่ละยก รวมถึงการเปิดโอกาสให้ทีมมวย “ทักท้วง” ผลการตัดสินได้ถ้ารู้สึกว่าการตัดสินนั้นๆ ค้านสายตา รวมถึงการเปลี่ยนชื่อเอาเคล็ด จาก AIBA เหลือแค่ IBA ออกเสียงว่า “ไอบ้า” เหมือนเดิม แต่ตัดคำว่า “สมัครเล่น” ออก
แต่ทั้งหมดที่ทำมานั้นก็ยังไม่ดีพอ ที่สำคัญ “ไอบ้า” นั้นยังก้าวข้ามไม่พ้นวังวนเดิมๆ ของตัวเอง โดยไอบ้ายังมีปัญหาเรื่องการเลือกตั้งประธานคนใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยอูมาร์ เครมเลฟ ประธานคนเดิมได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งต่อ หลังจากที่บอริส ฟาน เดอร์ ฟอร์สต์ ประธานสมาคมมวยสมัครเล่นเนเธอร์แลนด์ ถูกคณะกรรมการอิสระที่ตั้งโดย “ไอบ้า” ตัดสิทธิ์ด้วยข้อหาหาเสียงนอกระยะเวลา และข้อหา “ร่วมมือ” กับผู้สมัครคนอื่นๆ จากสหรัฐอเมริกา, นิวซีแลนด์, สวีเดน และเดนมาร์ก ซึ่งก็ถูกตัดสิทธิ์กันหมด เรียกว่าพยายามเตะตัดขาคู่แข่งเพื่อให้ตัวเองลอยลำ ทีนี้ทางบอริส ฟาน เดอร์ ฟอร์สต์ อุทธรณ์กับศาลกีฬาโลก และศาลกีฬาโลกตัดสินว่าคำอุทธรณ์ฟังขึ้น เพราะอูมาร์ เครมเลฟเอง ก็หาเสียงมาตลอดนอกระยะเวลาหาเสียงเช่นเดียวกัน ทำให้ “ไอบ้า” ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ เรียกว่าการบริหารงานยังมีความไม่โปร่งใสอยู่มาก
นอกจากนั้น ทางศาสตราจารย์แม็คลาเรน นักวิชาการอิสระ ที่ทาง “ไอบ้า” จ้างให้สอบสวนความไม่ชอบมาพากลในการจัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นรายการใหญ่ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ก็ตีพิมพ์รายงานฉบับล่าสุดออกมาจำนวน 114 หน้า (ใครสนใจหาอ่านได้ สนุกจริงๆ) ที่สำคัญคือรายงานฉบับนี้ครอบคลุมการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในยุคหลังประธานเจ้าปัญหาชาวไต้หวัน “ชิง กั๊วะ วู” แล้ว แต่ในรายงานยังระบุปัญหาความไม่โปร่งใสต่างๆ ทั้งการเลือกกรรมการ การจับสลากแบ่งสาย ความไม่ชอบมาพากลในระหว่างการแข่งขัน ทั้งการเลือกกรรมการที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับมวยคู่นั้นๆ ที่หนักๆ ถึงกับส่งกรรมการที่เป็นชาติเดียวกับนักมวยมาให้คะแนเลยทีเดียว การส่งซิกกันระหว่างกรรมการ เพื่อเทคะแนนไปทางเดียวกัน การบังคับให้กรรมการให้คะแนนไปทางใดทางหนึ่ง การละเลยข้อร้องเรียนต่างๆ เรียกว่าแผลยังเหวอะหวะเน่าเฟะไปทั้งตัว ไม่แปลกใจที่ “ไอโอซี” จะยังไม่คืนสิทธิ์ในการจัดการแข่งขันให้ในครั้งนี้ แถมยังบอกอีกด้วยว่าในโอลิมปิก 2028 จะมีมวยสมัครเล่นหรือไม่นั้นยังไม่แน่ เรียกว่า “ไอบ้า” นั้นยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะเลย