คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
นับตั้งแต่ ปาร์ก ฮัง ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ เข้ามารับงานคุมทีมชาติเวียดนามชุดใหญ่ เมื่อเดือนตุลาคม 2017 เปลี่ยนทีม "ดาวทอง" จากทีมระดับอาเซียนมาสู่ทีมที่ก้าวไปถึงรอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ได้เป็นครั้งแรก แม้ว่าผลงานจะจบบ๊วยกลุ่มบี แต่ก็ยังเอาชนะ จีน และ เสมอ ญี่ปุ่น เก็บได้ถึง 4 คะแนน จากการแข่งขัน 10 นัด นับว่าผลงานไม่ได้ขี้เหร่เลย
ที่สำคัญการมาของ "โค้ชปาร์ก" ทำให้ เวียดนาม เจอแผนการเล่นแห่งชาติ หรือ "เวียดนามเวย์" เข้าให้แล้ว คือ เล่นเกมรับให้เหนียว แล้วรอสวนแม่นๆ ต่อบอล 3 ครั้ง 2 ครั้ง ถึงหน้าประตูคู่แข่ง ขอแค่โป้งเดียวก็ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ
หลังนำทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์ ครั้งล่าสุด "โค้ชปาร์ก" ถอยจากทีมชุด U23 ส่งต่อให้ กง โอ คยุน คนบ้านเดียวกันมารับงานต่อ แต่ก็ยังสามารถเบียดทีมชาติไทยของเราผ่านเข้ารอบ 8 ทีมศึกชิงแชมป์เอเชีย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ได้สำเร็จ รูปแบบก็เหมือนโคลนนิ่งทีมชาติชุดใหญ่มาไว้ในทีม U23 เล่นเหมือนกันเปะ
แต่ก็นั่นแหละสัญญาของ "โค้ชปาร์ก" กับทีมชาติเวียดนาม เหลือถึงวันที่ 31 มกราคม 2023 ซึ่งแฟนบอล เวียดนาม เขาก็อยากให้มีการขยายสัญญาต่อ ตอนแรกข่าวทางโน้นบอกว่า กุนซือชาวเกาหลีใต้รายนี้อาจจะวางมือเพื่อกลับบ้านเกิด ดูแลคุณแม่ที่มีอายุมากแล้ว รวมถึงตัวเองก็มีโรคประจำตัว เพราะอายุปาเข้าไป 63 ปีแล้ว
ทว่าล่าสุดดูเหมือนว่า "โค้ชปาร์ก" จะยืนยันว่าเขาพร้อมทำงานต่อ ที่ยังไม่มีการขยายสัญญาออกไป เพราะอยากคุยกันสัก 3 เดือนก่อนหมดสัญญาดีกว่า ซึ่งเป้าหมายอันสั้นของกุนซือรายนี้เป็นการทวงแชมป์ เอเอฟเอฟ จากไทยกลับนี่แหละ เจ้าตัวยอมรับเลยว่า ลืมไม่ลงจริงๆ คือ การแพ้ ไทย ตกรอบรองชิงแชมป์อาเซียน 2020
นอกจากนี้เรายังได้เห็นสมาคมฟุตบอลเวียดนาม ประกาศเป้าหมายใหญ่ของฟุตบอลเวียดนามทั้งทีมชาย-หญิง โดยทีมชายนี้เขาหวังจะไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกา ,แคนาดา และ เม็กซิโก เป็นเจ้าภาพร่วม แน่นอนว่ายากมาก แม้ว่าโควต้าจากทวีปเอเชียจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 ทีม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นะ