แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งไทยดีกรีแชมป์ซูเปอร์คาร์ ประเทศไทย เก็บคะแนนสะสมกลับบ้าน ในนัดเปิดฤดูกาล สนามแรก รายการจีที เวิลด์ ชาเลนจ์ เอเชีย (GT World Challenge Asia) ซึ่งจัดขึ้นที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 20 -22 พฤษภาคม หลังจากมีการงดจัดการแข่งขันนานกว่า 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19
แซนดี้ สังกัดทีมอาวดี้ สปอร์ต เอเชีย เอ็กซ์ เวิร์ค เรซซิ่ง (Audi Sport Asia X-Works) ลงแข่งขันในรายการ จีที เวิลด์ ชาเลนจ์ เอเชีย (GT World Challenge Asia) ซึ่งเป็นรายการแข่งขันรถซูเปอร์คาร์ จีที 3 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ด้วยรถอาวดี อาร์ 8 จีที 3 อีโว 2 สเปคปี 2022 (Audi R8 GT3 Evo II) หมายเลข 22 ประกบคู่กับทีมเมท ยาสเซอร์ ชาร์นิน (Yasser Shahin) นักแข่งดีกรีแชมป์ รายการ อาวดี้ อาร์ 8 แอลเอ็มเอส คัพ (Audi R8 LMS Cup) ทั้งคู่แข่งในรุ่น Pro-Am
ในวันพฤหัสบดี เริ่มทดสอบรถแข่งเพื่อให้ทีมเซ็ทอัพรถให้ดีที่สุด เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของสนามเซปังม และในวันศุกร์ เป็นวันทดสอบอย่างเป็นทางการ พบว่า ค่า BOP (Balance of Performance) ของรถอาวดี้ เป็นอุปสรรคในการต่อสู้ในฤดูกาลนี้ ส่วนช่วงเช้าวันเสาร์ เป็นวันควอลิฟาย ยาสเซอร์ ลงควอลิฟายแรก ได้อับดับ 7 แซนดี้ลงควอลิฟายที่ 2 ได้อันดับ 6
“นี่คือความเร็วสูงสุดที่เราสามารถทำได้ภายใต้ข้อจำกัดของค่า BOP ที่เราได้รับ เป็นที่น่าเสียดายที่เป็นค่าที่ไม่เหมาะสมสำหรับรถแข่งอาวดี้ในสนามเลย” แซนดี้กล่าวหลังรอบควอลิฟายที่ยากลำบาก
ในช่วงบ่ายวันเสาร์ เรซแรก ยาสเซอร์ ลงแข่งขันเป็นคนแรก ยาสเซอร์ขับได้อย่างยอดเยี่ยม ไต่อันดับขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงอันดับที่ 2 ก่อนเข้าพิทสตอป เปลี่ยนตัวนักแข่งเป็นแซนดี้ ลงแข่งต่อในช่วงครึ่งหลังของเรซแรก แซนดี้กลับเข้าสนามแข่งขัน อันดับหล่นไปเป็นอันดับที่ 3 จากการเสียเวลาช่วงเข้าพิท แซนดี้รีบกดคันเร่งเพื่อไต่อันดับขึ้นให้ได้ แต่โชคร้าย เกิดปัญหาที่ดุมล้อหลัง ทำให้แซนดี้ต้องออกจากการแข่งขันในช่วงที่ไต่อันดับไปได้สูงแล้วอย่างน่าเสียดาย แต่อย่างไรก็ตาม แซนดี้และยาสเซอร์แข่งขันในเรซแรกมากกว่า 75% จึงยังคงได้รับคะแนนสะสม
“แซนดี้รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมากที่ต้องออกจากการแข่งขันในขณะที่เราติดท็อป 4 แต่อย่างไรเราจะสู้ใหม่ในการแข่งขันในเรซที่สองของวันพรุ่งนี้” แซนดี้กล่าวหลังการแข่งขันในเรซแรก
ในช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ เป็นการแข่งขันเรซที่ 2 โดยแซนดี้ลงแข่งขันเป็นคนแรก ออกจากกริดสตาร์ทที่ 6 แซนดี้ไต่อันดับขึ้นมาอันดับที่ 5 รักษาความเร็วอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเวลาเปลี่ยนตัวนักแข่ง เป็นยาสเซอร์ รับช่วงต่อในช่วงท้ายการแข่งขัน แต่น่าเสียดายรถอาวดี้ออกจากพิทเลนเร็วเกินไป (ณ เวลา 0.0114 วินาที) ซึ่งทำให้เราโดนปรับโทษ Stop and Go ในที่สุดแซนดี้และยาสเซอร์จบอันดับที่ 6 สำหรับเรซที่ 2
“โชคร้ายที่โดนปรับโทษในช่วงพิทสต็อป แต่ยังโชคดีที่อันดับของเราหล่นลงไป 1 อันดับ เราได้เรียนรู้จากที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราจะกลับมาแกร่งมากขึ้นและพร้อมสู้ศึกครั้งต่อไป แซนดี้ตั้งตารอที่จะได้แข่งในประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง เพราะเป็นหนึ่งในสนามที่แซนดี้ชอบที่สุดในโลก – สนามซูซุกะ” แซนดี้กล่าวหลังจบการแข่งขันสุดสัปดาห์ที่ท้าทาย