xs
xsm
sm
md
lg

ศิลปะการต่อสู้พื้นบ้านในซีเกมส์ / ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

จบกันไปแล้วสำหรับมหกรรมกีฬาในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เรา ซีเกมส์ 2022 ที่กรุงฮานอย เวียดนาม ซึ่งเลื่อนมาจากกำหนดที่ควรจะจัดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งภาพรวม “เจ้าภาพ” เวียดนามเดินหน้าโกยเหรียญทองนำขาดไม่เห็นฝุ่นตั้งแต่วันแรกๆ ของการแข่งขัน สุดท้ายต้องเอาเหรียญอันดับ 2-3-4 มารวมกันถึงจะสูสีกันได้ แต่ต้องบอกว่าสำหรับทัพนักกีฬาไทยน่าจะภาคภูมิใจพอสมควรเพราะได้เหรียญใหญ่ๆ มาเยอะ ทั้งว่ายน้ำที่ห่างเหินไปนาน หรือรายการใหญ่ๆ ในกรีฑาลู่และลาน ยกน้ำหนัก แบดมินตัน แม้แต่ยิมนาสติก เรียกว่าทำได้ดีน่าชื่นชม

ประเด็นที่แฟนกีฬาวิพากษ์วิจารณ์กันมากก็เห็นจะเป็นเหรียญจากกีฬาการต่อสู้ ทั้งสากลและพื้นบ้าน ที่เจ้าภาพอัดเข้ามาให้ช่วงชิงกันถึงเกือบ 140 เหรียญ มองในแง่ดีก็คือเจ้าภาพใส่เข้ามาเอาใจทุกชาติ ทั้งโววินัม คูราช ปัญจักสีลัต และมวยไทยสมัครเล่น รวมทั้งศิลปะการต่อสู้แบบสากลก็มากันพร้อมทั้งมวยสากลสมัครเล่น เทควันโด้ คาราเต้ ยูโด ยิวยิตสู คิ๊กบ็อกซิ่ง จะมาบอกว่าจัดแต่แบบที่ตัวเองถนัดก็คงพูดได้ไม่เต็มปากนัก แต่กีฬาเหล่านี้การตัดสินมาจากสายตาและความรู้สึกของผู้ตัดสินเป็นส่วนใหญ่ กีฬาระดับสากลอย่างเทควันโด้นั้นก้าวไปไกลใช้ระบบอิเล็คทรอนิคส์แล้ว ตัดปัญหาการใช้สายตาตัดสินไปได้ ส่วนมวยสากลสมัครเล่น งานนี้มีเสียงบ่นเบาๆ ไม่รุนแรงนัก และทางไอบ้าเองก็นำระบบการ “ชาลเล้นจ์” คือให้แต่ละทีมทักท้วงผลได้มาใช้แล้ว ก็ดูจะได้ผลดีอยู่ แม้ในรายการนี้จะไม่มี แต่การตัดสินมวยสากลสมัครเล่นก็น่าจะชัดเจนโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ

แต่ในกีฬาพื้นบ้านยังต้องหาทางออกกันต่อไป อย่างมวยไทยสมัครเล่นเมื่อวันอาทิตย์ เจ้าภาพ เข้าชิงถึง 9 เหรียญทองจากที่จัดแข่งกัน 10 เหรียญทอง (ในประเภทต่อสู้) และกวาดไป 5 เหรียญ ให้ไทย 3 เหรียญ มาเลเซีย 1 เหรียญ กัมพูชาได้ไปอีก 1 เหรียญ โดยหลายๆ คู่ในสายตาแฟนมวยชาวไทย นักมวยของเวียดนามโดนจนอ่วม ออกอาวุธก็เฉี่ยวๆ แต่คะแนนในยกนั้นออกฝั่งเจ้าภาพซะงั้น แถมการแข่งขันรายการนี้เป็นแบบสมัครเล่น คือมีเครื่องป้องกันพร้อมทั้งเฮดการ์ด เกราะป้องกันอก สนับศอก และสนับแข้ง เรียกว่าโอกาสชนะน็อกเพื่อตัดปัญหาจากการตัดสินนี้ยากมากๆ ต้องอาศัยสายตากรรมการอย่างเดียว ซึ่งดูเหมือนการให้คะแนนยังไม่ชัดเจนว่าแบบไหนได้คะแนน แบบไหนไม่ได้ นักมวยหลายๆ คนก็ติดการชกแบบมวยไทย “พิมพ์นิยม” คือเข้ากอดแล้วก็อาศัยลูกแข็งแรงหักคู่ต่อสู้ลงไปแล้วล้มทับ กองเชียร์ก็เฮกันด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าได้คะแนนแค่ไหน

ที่วุ่นวายที่สุดก็น่าจะเป็นปัญจักสีลัต ที่นักกีฬาไทยพบกับนักกีฬาจากสิงคโปร์ซึ่งบังเอิญเป็นลูกของประธานผู้ตัดสินพอดี แล้วการตัดสินดูราวกับว่านักกีฬาสิงคโปร์ได้ประโยชน์เยอะ ทั้งการที่คะแนนขึ้นทางสิงคโปร์ฝั่งเดียว แล้วยังมาตัดคะแนนฝั่งเราจนคะแนนติดลบไปเลย จนนักกีฬาไทย “วอล์คเอ๊าท์” และมีการประท้วงกันอุตลุด

งานนี้ทางผู้ใหญ่คงต้องคุยกันว่ามหกรรมกีฬายิ่งใหญ่ของเรานี้จะไปทางไหน ทั้งการเลือกประเภทกีฬาที่จะจัดเข้ามา จำนวนเหรียญที่จะให้ รวมทั้งการตัดสิน เพื่อยกระดับให้มหกรรมกีฬานี้เป็นเวทีที่จะยกระดับมาตรฐานนักกีฬา และการจัดกีฬา เพื่อหวังก้าวไปสู่เวทีที่ใหญ่กว่านี้ทั้งเอเชี่ยนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์ให้ได้จริงๆ ถ้าเอะอะอะไรก็ “เฟรนด์ชิปๆ” คือขอกันว่าขอให้เห็นแก่มิตรภาพ วงการกีฬาของชาวเราก็คงไม่ไปถึงไหน และโอกาสที่จะก้าวไประดับใหญ่ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
กำลังโหลดความคิดเห็น