ลี คัง ฮุน โปรกอล์ฟหนุ่มจากเกาหลีใต้ อดีตแชมป์แชมป์พีจีเอทัวร์ รายการ เอทีแอนด์ที ไบรอน เนลสัน เปิดใจก่อนลงป้องกันแชมป์ที่สนามทีพีซี เครก เรนจ์ ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เล่าย้อนเส้นทางก่อนประสบความสำเร็จแบบในวันนี้ได้มาจากความเสียสละของคุณแม่และคุณพ่อ ที่ทำงานหนักมากเพื่อสานฝันการเป็นนักกอล์ฟอาชีพของลูกชาย
ลี คัง ฮุน โปรแดนโสมวัย 30 ปี ย้อนถึงเรื่องราวสมัยเป็นเด็กว่า ตนเป็นลูกชายคนเดียว แต่ไม่เคยได้มีไม้กอล์ฟรุ่นใหม่ล่าสุดหรือเสื้อผ้าแบรนด์เนมเหมือนเป็นของตัวเองเหมือนอย่าง ไทเกอร์วูดส์ และ เค.เจ. ชอย ผู้เป็นไอดอลของเขา เพราะคุณพ่อ กับคุณแม่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย โดยท่านทั้งสองเปิดร้านอาหารในกรุงโซล ทำงานเก็บเงินเพื่อเป็นทุนสนับสนุนลูกชายที่มีความรักและไฝ่ผันเป็นนักกอล์ฟ ซึ่งโปรกอล์ฟจากเกาหลีใต้ระลึกถึงบุญคุณขนองพ่อกับแม่เสมอ
โดยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลวันแม่ในเกาหลีใต้ ลี คัง ฮุน ขอบคุณความเสียสละของคุณแม่ที่ต้องเหน็ดเหนือยกับการดูแลกิจการร้านอาหารเพียงลำพังเพื่อสนับสนุนครอบครัว ในขณะที่คุณพ่อมารับหน้าที่เป็นคนขับรถ เป็นพี่เลี้ยง และเป็นผู้ติดตามของเขาระหว่างการเริ่มต้นเส้นทางนักกอล์ฟอาชีพ
“ถ้าไม่มีคุณแม่ ผมคงมาไม่ได้ไกลขนาดนี้ คุณแม่เป็นผู้ดูแลทุกอย่างในครอบครัว และทำงานหนักที่สุด ผมกับพ่อจะสบายกว่าเพราะเราอยู่ด้วยกัน ผมคิดอยู่เสมอว่าคุณแม่ต้องเจอกับความเหนื่อยยากลำบากและรู้สึกโดดเดี่ยวมากแค่ไหนในตอนนั้น และพอคิดถึงเรื่องที่แม่ต้องทำงานหนัก บางครั้งผมก็รู้สึกปวดใจ” ลี กล่าว
ลี คัง ฮุน เผยอีกว่ารับรู้ถึงความลำบากที่แม่ต้องเผชิญเมื่อโตขึ้นแล้ว บางครั้งคุณแม่ของเขาต้องนอนคนเดียวในร้านอาหาร เพราะอยู่ไกลบ้าน บางทีก็เลิกดึกจนไม่สามารถหารถกลับได้ และแม้ชีวิตอยากลำบากแต่พ่อกับแม่ไม่เคยบ่นเลย
“ในตอนนั้น ท่านทั้งสองไม่เคยพูดถึงความยากลำบากเลย และผมก็ทำในสิ่งที่ผมต้องการ เช่น พอมีนักกอล์ฟซื้อชุดแข่งใหม่ ผมจะบอกให้พ่อกับแม่ซื้อให้เช่นกัน ซึ่งผมรู้สึกเสียใจไม่น้อยที่ทำแบบนั้น หากผมรู้สถานะทางการเงินของครอบครัวในขณะนั้น ก็คงไม่รบเร้าให้ท่านซื้อให้ แม้ว่าต้องเจอกับความยากลำบากแต่ท่านทั้งสองก็สนับสนุนและบอกให้ผมทำตามฝัน” ลี กล่าวเสริม
โปรหนุ่มจากเกาหลีใต้ เผยอีกว่ารู้สึกเสียใจที่เคยมีปากเสียงกับคุณพ่อระหว่างเดินสาย แต่ซาบซึ้งใจกับความทุ่มเทของพ่อและคำแนะนำต่างๆ
“เราผ่านความยากลำบากด้วยกัน เรามีปากเสียงกันบ่อย คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ผมก็รู้สึกเสียใจ คุณพ่อออกรอบไปกับผมทุกวัน ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับท่านไม่น้อยด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เอืออำนวยเท่าไหร่ ท่านยังให้คำแนะนำผมมากมาย เพราะท่านชอบอ่านหนังสือ เจอตรงไหนดีๆก็จะมาบอกผมตลอด และที่สำคัญท่านพูดกับผมเสมอว่าอย่างยอมแพ้เพราะนี่คือเส้นทางที่เลือกแล้ว” ลีกล่าว
ด้าน ฮี วอน ฮง ผู้เป็นแม่กล่าวว่า เธอและสามีเพียงแค่ทำในสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต้องทำ นั่นคือการสนับสนุนลูกชายในทุกทางเพื่อให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เลือก หลังจากลูกชายตัดสินใจเลือกเล่นกีฬากอล์ฟในวัย 13 ปี เธอกล่าวว่า “มีหลายครั้งที่ฉันต้องการให้มีใครสักคนอยู่เคียงข้างช่วยดูแลร้านอาหาร ซึ่งร้านอาหารแห่งนี้คืออนาคคของ ลี คัง ฮุน ว่าจะทำได้ดีแค่ไหนในเส้นทางกอล์ฟอาชีพ ดังนั้น ฉันจึงอดทนและผ่านมันไปได้”
ส่วน ลี ซัง มุน ผู้พ่อ ภูมิใจมากกับความสำเร็จของลูกชายในสหรัฐอเมริกาและในเอเชีย ซึ่งลี คัง ฮุน คว้าแชมป์สองรายการที่เกาหลีใต้และในเจแปน กอล์ฟ ทัวร์ และได้เล่าถึงช่วงเริ่มต้นอาชีพของลูกชายว่า “ตอนนั้นเราค่อนข้างติดขัดเรื่องการเงิน แม้ว่าเราไม่พูดถึง แต่ลี คัง ฮุน น่าจะพอทราบ หากเพื่อนของเขามีชุดของไนกี้ ผมต้องซื้อชุดที่ไม่ใช่แบรนด์เนมให้เขา ซึ่งเขาก็ไม่ได้รู้สึกอายและผึกซ้อมอย่างหนัก”
ทั้งนี้ตอนแรกพ่อกับแม่ไม่คิดว่าลี คัง ฮุน จะกลายเป็นนักกอล์ฟอาชีพ เพราะลูกชายมีผลการเรียนดี และได้รับเลือกเป็นนักทุ่มน้ำหนักของโรงเรียน แต่จากนั้นไม่นนาน ลี คัง ฮุน หันมาให้ความสนใจกีฬากอล์ฟ เนื่องจากคุณปู่เล่นกอล์ฟ และมีสนามไดร์ฟกอล์ฟมาเปิดใกล้กับร้านอาหารของครอบครัว
หลังจากหันมาเอาดีทางกีฬากอล์ฟ ครอบครัวได้ส่ง ลี คัง ฮุน ไปเเรียนกับ ฮยอง ซัง ชุน ผู้ฝึกสอนคนดังในท้องถิ่น ซึ่งสังเกตเห็นความแตกต่างและเห็นแววของ ลี คัง ฮุน
“เขาเป็นเด็กที่อ่อนน้อมถ่อมตน และตอนแรกผมก็สงสัยว่าเขาจะตีกอล์ฟเก่งไหม เพราะเริ่มแรกเขาดูธรรมดา ผ่านไปไม่นานเขาก็แสดงให้เห็นว่าสามารถเชื่อใจได้และไม่ได้ทำตัวไร้สาระเหมือนเด็กคนอื่นๆ เขามีสมาธิจดจ่อกับการฝึกซ้อมและควบคุมตนเองได้ดี เขามักมีคำถามอยู่เสมอ เมื่อเขามาซ้อม แม้บอกว่าซ้อมเสร็จแล้วให้กลับบ้านได้ แต่เขายังไม่ยอมออกจากสนาม เป็นคุณสมบัติที่โค้ชชื่นชอบ ผมจึงแนะนำครอบครัวของเขาให้ส่งเสริมสนับสนุน ลี คัง ฮุน สู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพเพราะเขามีศักยภาพในกีฬากอล์ฟ”
ฮยอง ซัง ชุน ยังเชื่ออีกว่า อดีตลูกศิษย์ของเขาจะทำผลงานคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ได้มากกว่าที่ เค.เจ.ชอย ยอดโปรกอล์ฟคนดังของเกาหลีใต้ ทำไว้ 8 รายการ
“ผมคิดว่าเขาจะทำผลงานได้ดีอีกนาน ตอนนี้เขาแต่งงานและมีลูกแล้ว ชีวิตเขามีความมั่นคง หากเขายังคงฝึกซ้อมหนัก ก็มีโอกาสคว้าแชมป์เพิ่มอีก ตอนนี้เขาทำได้แล้ว ทำให้สามารถเล่นได้อย่างผ่อนคลายมากขึ้นโดยไม่รู้สึกว่ามีภาระที่ค้างขา ผมเชื่อว่าเขาจะคว้าแชมป์ได้ถึง 10 รายการหรือมากกว่านั้น” ฮยอง ซัง ชุน กล่าว
ปัจจบัน ลี คัง ฮุน ทำเงินรางวัลรวมแล้ว 5.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลอดการลงเล่นสี่ฤดูกาลในพีจีเอทัวร์ แต่ลี ซัง มุน เชื่อว่าลูกชายยังกระหายต่อชัยชนะและความสำเร็จมากมาย ผลพวกการปลูกฝังของครอบครัว “เงินคือสิ่งสำคัญที่สุด” โดยกล่าวทิ้งท้ายว่า “เท่านี้ยังไม่พอหรอก นั่นคือสปิริตที่จะรักษาความความกระหายชัยชนะของนักกีฬาไว้ ลี คัง ฮุน ตระหนักและเรียนรู้จากความยากลำบากด้านการเงินของครอบครัวในอดีตที่ผ่านมา แต่เราพยายามทำดีที่สุด เราเสียสละเพื่อเขา เพราะเราเป็นพ่อเป็นแม่ การให้การสนับสนุนเขาคือสิ่งที่เราต้องทำ”