หลังจากที่ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ เฉือนชนะ ลาว 1-0 คว้าแชมป์กลุ่มเอ พร้อมผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก ไปพบกับ อินโดนีเซีย รองแชมป์กลุ่มบี ที่เธียน ตรวง สเตดียม ในวันที่ 19 พฤษภาคม เวลา 19.00 น. นั้น
มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เกมนี้เราเล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้คือคว้าชัยชนะและเป็นแชมป์กลุ่ม เพื่อที่จะได้อยู่ที่สนามแห่งนี้ต่อไป ไม่ต้องเดินทางเกือบ 4 ชั่วโมงเพื่อจะไปแข่งขันอีกสนามหนึ่ง นอกจากนี้ได้ลงเล่นที่นี่มาหลายนัด เริ่มมีความคุ้นชินกับสนามแล้วด้วย หวังว่าจะใช้เป็นประโยชน์ได้
“อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงฝ่ายจัดการแข่งขันหน่อยว่าสภาพสนามตอนนี้มันแย่มากๆ ทั้งหญ้าหลุดแล้วก็มีทรายเต็มไปหมด ซึ่งสภาพไม่เหมาะสมจะทำการแข่งขันเลย อยากให้ช่วยดูแลสนามกลับมาสภาพดีอีกครั้ง เพราะไม่ใช่แค่ตน แต่เชื่อว่าโค้ชอินโดนีเซียก็คงอยากเล่นในสนามที่ดีด้วยเช่นกัน”
มาโน่ พูดถึงคู่แข่งในรอบตัดเชือกว่า สำหรับตนเองคิดว่าอินโดนีเซียเป็นทีมที่เล่นได้ดีที่สุดในรอบแรก แม้ว่าเกมแรกจะแพ้เพราะว่ายังไม่ได้ผู้เล่นตัวหลักมาครบ แต่หลังจากนั้นเป็นทีมที่มีการเล่นยอดเยี่ยม จริงๆ ได้เจอกันตั้งแต่ซูซูกิ คัพ รู้ว่าเป็นทีมที่มีผู้เล่นอายุน้อยเป็นแกนหลักอยู่แล้ว อยู่ด้วยกันมานาน มีการเล่นที่เข้าใจกัน ดังนั้นจะเป็นเกมที่ยากสำหรับทีมไทย
“อินโดนีเซียเป็นทีมพลังหนุ่ม มีร่างกายที่แข็งแรง วิ่งไม่หยุดตลอด 90 นาที ฉะนั้นเป็นทีมที่อันตรายและต้องเตรียมตัวให้พร้อม หาแผนที่ดีที่จะไว้รับมือกับอินโดนีเซีย”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ชินแตยัง เฮดโค้ชของอินโดนีเซียได้เข้ามาชมเกมในสนามด้วยตัวเอง จะเป็นข้อเสียเปรียบของไทยหรือไม่นั้น มาโน่ กล่าวว่า เรามีทีมนักวิเคราะห์ที่ดีที่สุดในเอเชียอยู่และสามารถนำข้อมูลมาให้กับทีมได้เป็นอย่างดี ส่วนอินโดนีเซียที่มาดูในเกมนี้คงไม่ได้อะไรเท่าไหร่ เพราะไทยไม่ได้ส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามไปด้วย