วิทนี่ย์ ฮิลเลียร์ โปรสาวลูกครึ่งไทย-ออสซี่ พาลูกทีมคว้าแชมป์ไปที่ 31 อันเดอร์พาร์ 257 ขณะที่ ปภังกร ธวัชธนกิจ มืออันดับ 13 ของโลก ยังเหนียวเก็บได้อีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 นำต่อรอบสองที่ 9 อันเดอร์พาร์ 135 จากการแข่งขันกอล์ฟเลดีส์ ยูโรเปียนทัวร์ รายการ “อารามโก้ ทีม ซีรีส์ แบงคอก พรีเซนเต็ดบาย พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์" ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ สนามไทยคันทรีคลับ เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา
กอล์ฟอารามโก้ ทีม ซีรีส์ เป็นการแข่งขันประเภททีมรูปแบบใหม่ โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็น 26 ทีมๆละ 4 คน นำโดยกัปตันทีม 26 คน ซึ่งจะมีสิทธิ์เลือกผู้เล่นเข้าร่วมทีมได้หนึ่งคน และจากการสุ่มอีกหนึ่งคน ส่วนคนสุดท้ายเป็นการสุ่มเลือกนักกอล์ฟสมัครเล่น
เมื่อจบการแข่งขันรอบสองซึ่งเป็นรอบตัดสินประเภททีม(13พ.ค.) ปรากฏว่า ทีมฮิลเลียร์ ประกอบด้วยวิทนี่ย์ ฮิลเลียร์ โปรสาวลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ในฐานะกัปตันทีม, ชลดา ชยณรรย์, กริสต้า บาร์คเกอร์ จากฟินแลนด์ และ พัทธนันท์ อมตานนท์ นักกอล์ฟสมัครเล่น ช่วยกันทำสกอร์เข้ามาอีก 15 อันเดอร์พาร์ 129 สองวันคว้าแชมป์ไปที่สกอร์รวม 31 อันเดอร์พาร์ 257 รับเงินรางวัลประเภททีมไปคนละ 35,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.15 ล้านบาท
วิทนี่ย์ ฮิลเลียร์ กัปตันทีม กล่าวว่า “รู้สึกภูมิใจที่ได้แชมป์ และภูมิใจในทีมมาก วันนี้ทุกอย่างไหลลื่น เราเล่นได้ดี และสนุกกับเกมการแข่งขันนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด วันแรกอเมเจอร์เล่นได้ดี ส่วนวันนี้ชลดาเล่นดีมาก รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาเล่นที่เมืองไทยอีกครั้งด้วย”
ด้าน ชลดา กล่าวว่า “วันนี้ทุกอย่างดีหมด และตนทำได้ถึง 8 เบอร์ดี้ ภูมิใจมากที่ช่วยทีมคว้าแชมป์ได้ เพราะไม่ได้คาดหวังมาก่อน”
ส่วนกริสต้า ที่คว้าแชมป์ประเภททีมรายการนี้เป็นครั้งที่สอง เผยว่า “ดีใจที่ได้แชมป์อีกครั้ง ตอนได้แชมป์แรกที่เจดดาห์ลุ้นมากกว่า เพราะต้องดวลเพลย์ออฟตัดสิน แต่การคว้าแชมป์ที่ไทยมีความพิเศษมากเช่นกัน”
ขณะที่อันดับสองได้แก่ทีมซิมเมอร์มาเช่ จากอาร์เจนติน่า ที่ผู้เล่นในทีมประกอบด้วย แมคดาเลน่า ซิมเมอร์มาเช่อร์ จากอาร์เจนติน่า (กัปตันทีม) ชาร์ล็อต ลีโอติเยร์ จากฝรั่งเศส, อิสซาเบลล่า เดแลท จากสวีเดน และสิรภพ ยะปาลานักกอล์ฟสมัครเล่น 28 อันเดอร์พาร์ 260 เงินรางวัลไปคนละ 19,161 เหรียญสหรัฐ ประมาณ 635,313 บาท
ส่วนการแข่งขันประเภทบุคคลปรากฎว่า โปรเหมียว หรือ แพตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิจ มืออันดับ 13 ของโลก ยังคงรักษาฟอร์มดีต่อเนื่องด้วยการเก็บได้อีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 จาก 4 เบอร์ดี้ที่หลุม 7, 9, 17 และ 18 เสียโบกี้เดียวที่หลุม 12 สองวันนำประเภทบุคคลต่อที่สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 135 พร้อมพาเพื่อนร่วมทีมจบในอันดับสาม ที่สกอร์รวม 27 อันเดอร์พาร์ 261 โดยมีเฟลิซิตี้ จอห์นสัน จากอังกฤษ และมานอน เดอ รอย จากเบลเยี่ยม ตามหลังสองสโตรค ขณะที่ โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล มือ 40 ของโลก ทำได้อีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวม 6 อันเดอร์พาร์ 138 รั้งอนดับ 4 ร่วม
ปภังกร กล่าวว่า “รู้สึกดีที่จบการแข่งขันวันที่สองในฐานะผู้นำประเภทบุคคล แม้ทำผลงานได้ไม่ดีนัก ทุกอย่างดูเหนื่อยๆ แต่ก็พยายามเล่นอย่างอดทน ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ จนสามารถปิดท้ายด้วย 2 เบอร์ดี้ และนำอยู่สองสโตรค โดยรวมพอใจกับผลงานประเภททีม รูปแบบการแข่งขันเล่นสบาย ทุกคนเล่นตามเกมตัวเอง และต้องการจะทำผลงานได้ดี เพราะหากเราทำได้ดี ทีมก็จะมีผลงานดีเช่นกัน เมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ตีช็อตดีๆ ก็สามารถนำมาสร้างโมเมนตัมให้กับตัวเองได้ ชอบการเล่นประเภททีมแบบนี้ หากได้รับเชิญร่วมแข่งขันอีกก็จะไปแข่ง”
“สำหรับผลงานประเภทบุคคล โดยรวมค่อนข้างพอใจ แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น ทุกรอบยังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุง วันนี้ฟอร์มการเล่นถือว่ากลางๆ ส่วนในวันพรุ่งนี้ก็ต้องการคว้าแชมป์ แต่ก็ไม่อยากตั้งความหวังไว้มากเพราะจะเป็นการกดดันตัวเอง จะพยายามทำให้ดีทุกช็อต สร้างโอกาสให้มากที่สุด” โปรเหมียวกล่าวทิ้งท้าย
ด้านเอรียา กล่าวว่า “วันนี้สนามค่อนข้างยากเพราะลมค่อนข้างแรง มีหลายหลุมที่ปักธงค่อนข้างยาก พรุ่งนี้คิดว่าต้องสนุกมากๆ แน่ ผลงานประเภททีมก็สนุก เล่นไปเชียร์ไปเรื่อยๆ วันนี้ส่วนตัวพัตต์ไม่ค่อยดี ทีช็อตบางหลุมเจอลมแรงก็มีพลาดไปบ้าง การเล่นประเภททีมครั้งนี้ทำให้เมได้ประสบการณ์ที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ทำให้รู้ว่ากอล์ฟมีรูปแบบให้เล่นได้หลายอย่างในขณะเดียวกันอเมเจอร์ก็สสามารถมีส่วนร่วมด้วยได้ เป็นรายการที่สนุกและดีมาก เป็นความแปลกใหม่ที่รวมทั้งความสนุกและความซีเรียสมาอยู่ด้วยกันได้”
และในรอบนี้ตัดสกอร์นักกอล์ฟเข้าไปเล่นประเภทบุคคลรอบสุดท้ายที่ 5 โอเวอร์พาร์ 149 จำนวน 60 คน โดยโปรสาวของไทยสามารถผ่านเข้ารอบได้เพียง 4 คน ได้แก่ปภังกร ธวัชธนกิจ (-9), เอรียา จุฑานุกาล (-6), โมรียา จุฑานุกาล (-4) และ ชลดา ชยณรรย์ (-4) ขณะที่ ชนกนันท์ อังกุรเศรณี ตีเกินไป 6 โอเวอร์พาร์ 150
สำหรับการแข่งขันกอล์ฟอารามโก้ ทีม ซีรีส์ ฤดูกาล 2022 มีชิงชัย 5 สนาม ชิงเงินรางวัลรายการละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และประเดิมครั้งแรกที่ประเทศไทย พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการแข่งขันฤดูกาลแรกเมื่อปีที่แล้ว โดยในประเภททีมแข่งขันเพียง 36 หลุมเท่านั้นคือในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ชิงเงินรางวัล 500,000 เหรียญสหรัฐ เป็นการแข่งขันแบบโฟร์บอล คิดคะแนนจากสองผู้เล่นที่ทำสกอร์ดีที่สุดในแต่ละหลุม ทีมที่ทำคะแนนรวมต่ำสุดจะคว้าแชมป์ไปครอง
ส่วนในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการแข่งขันจะเป็นการลุ้นแชมป์ประเภทบุคคลของนักกอล์ฟอาชีพที่ทำผลงานดีที่สุดใน 60อันดับแรก และเสมอหลังจบสองวันแรก โดยมีเงินรางวัลรวมให้ชิงชัย 500,000 เหรียญสหรัฐ