คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เมื่อสายๆ วันอาทิตย์ตามเวลาในบ้านเรา หรือตรงกับค่ำๆ วันเสาร์ตามเวลาที่สังเวียนฟุตปริ๊นท์ เซ็นเตอร์ ในเมืองฟีนิกซ์ อาริโซน่าในสหรัฐอเมริกา มีศึก MMA รายการใหญ่ของค่าย UFC ในรายการ UFC 274 ซึ่งรายการนี้มีสีสันและเรื่องราวที่น่าสนใจหลายประเด็นเหมือนกัน โดยเริ่มจากคู่เอก ชาร์ลส์ โอลิเวียร่า นักสู้บราซิลเจ้าของเข็มขัดรุ่นไลท์เวทของ UFC เตรียมขึ้นป้องกันตำแหน่งกับจัสติน เก๊ดจี้ นักสู้อเมริกัน แต่นักสู้บราซิล “ตกตาชั่ง” เสียก่อนเพราะทำน้ำหนักไม่ได้ ชั่งได้ 155.5 ปอนด์ในพิกัดรุ่น 155 ปอนด์ และแม้จะมีเวลา 1 ชั่วโมงให้ลดน้ำหนักครึ่งปอนด์ ทางโอลิเวียร่ากลับมาชั่งอีกทีก็อยู่ที่ 155.5 ตามเดิม ซึ่งทางนักสู้บราซิลรายนี้ก็โดนด่าพอสมควรว่าดูเหมือนไม่ได้พยายามลดน้ำหนักเลย ถ้าโกนผมโกนเคราอาจจะทำน้ำหนักลงมาก็ได้ หรืออย่างน้อยก็ไปลดอีกนิดเดียว เลยกลายเป็นว่าไฟต์นี้ถ้าเก๊ดจี้ชนะ จะได้ตำแหน่งแชมป์ไป แต่ถ้าโอลิเวียร่าชนะ ตำแหน่งแชมป์ก็จะว่างลงและโอลิเวียร่าจะได้เป็นตัวยืนขึ้นทวงเข็มขัดอีกที
ไฟต์นี้จบเร็วแค่ยกแรก โดยทางผู้ท้าชิงเริ่มมาทำได้ดีกว่า ทิ่มหมัดส่งโอลิเวียร่าลงไปนั่งกับพื้นได้ถึง 2 ครั้ง แถมคิ้วแตกเลือดไหลทะลัก แต่ยังมีสติยกขากันไม่ให้เก๊ดจี้เข้าซ้ำได้ ทางนักสู้อเมริกันไม่สนใจจะลงไปเล่นเกมบนพื้นยืนรอให้โอลิเวียร่าลุกขึ้นมายืนสู้ต่อ แต่ทางแชมป์ที่เข็มขัดหลุดบนตาชั่งหมาดๆ ก็แสดงฝีมือสมศักดิ์ศรีทิ่มขวาตรงจนเก๊ดจี้ถลาร่วงลงพื้น แล้วตามเข้าล็อกในท่า “เรียร์ เน็กเก็ด โช้ค” หรือล็อกคอจากด้านหลังสำเร็จผู้ท้าชิงต้อง “แท็บเอ๊าท์” ยอมแพ้ไปปลายยกแรกนี้เอง ชวดโอกาสคว้าเข็มขัดอย่างน่าเสียดาย ทางโอลิเวียร่าประกาศพร้อมเจอทุกคนในรุ่นเพื่อทวงเข็มขัดกลับมา
ส่วนคู่รองเป็นการต่อสู้ระหว่างนักสู้สาว โรส นามายูนาส แชมป์รุ่นสตรอว์เวทหญิงของ UFC ขึ้นป้องกันตำแหน่งกับคาร์ล่า เอสปราซ่า อดีตแชมป์คนแรกในรุ่นนี้เมื่อปี 2014 โดยตอนนั้นเอสปราซ่าก็เอาชนะนามายูนาสคว้าแชมป์มานี่แหละ ก่อนจะเสียเข็มขัดให้กับโจแอนน่า เจิร์ดเซซิชไปในไฟต์ถัดไปเลย ไฟต์นี้ทั้งสองสาวขึ้นมาจดๆ จ้องๆ เต้นกันไปรอบเวที พอใครขยับเข้า อีกฝ่ายก็ถอยออก เรียกว่า 5 ยก 25 นาทีทั้งคู่แทบไม่แตะตัวกันเลย มีผู้ท้าชิงเอสปราซ่าเข้าเหวี่ยงนามายูนาสลงพื้นได้สองครั้ง ซึ่งทั้งสองครั้งนามายูนาสก็ลุกขึ้นได้ทันทีและเต้นออกมารักษาระยะใหม่ และปลายยก 5 ทางเจ้าของแชมป์ก็ทำ “เทคดาวน์” ผู้ท้าชิงได้ครั้งนึง ครบยกกรรมการหนักใจสุดๆ เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาให้คะแนน ก่อนสุดท้ายจะเห็นว่าผู้ท้าชิงพยายามเข้าทำมากกว่ากรรมการเลยให้ชนะคะแนนไปแบบไม่เอกฉันท์ท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนๆ ในสนาม เอสปราซ่าสร้างสถิติเป็นอดีตแชมป์ที่ใช้ระยะเวลานานที่สุดกว่าจะกลับมาทวงตำแหน่งคืนได้ คือ 2,612 วันหรือร่วม 9 ปี ต้องยอมรับในความพยายามที่ยังสู้มาตลอดจริงๆ
ส่วนคู่ค้ำ โทนี่ เฟอร์กูสัน อดีตแชมป์ “เฉพาะกาล” ในรุ่นไลท์เวท เจอกับไมเคิ่ล แชนด์เลอร์ ยกแรกโทนี่ เฟอร์กูสันทิ่มหมัดเข้าหน้าแชนด์เลอร์จนถลา แต่ยังกลับมาตั้งตัวได้ ปลายยกเป็นทางแชนด์เลอร์ทำได้ดีกว่า จับโทนี่ เฟอร์กูสันกดกับพื้นแล้วออกอาวุธใส่จนเฟอร์กูสันหางตาแตกเลือดทะลัก พอยกสองเริ่มต้นได้ไม่นานจังหวะที่โทนี่ เฟอร์กูสันกำลังง้างหมัดเตรียมทิ่ม ไมเคิ่ล แชนด์เลอร์สะบัดแข้งขวาท่า “ฟร้อนท์ คิก” เข้าเต็มปลายคาง โทนี่ เฟอร์กูสัน ร่วงหน้าคว่ำหลับไม่ตื่นอยู่ร่วม 1 นาทีเลยทีเดียว ถือว่ามันส์สุดๆ สำหรับไฟต์นี้ได้รางวัลไฟต์ดุเดือดประจำรายการเลย อยากให้แฟนๆ หาคลิปไฟต์นี้มาดูให้ได้เพราะมันส์จริงๆ ถือเป็นการน็อกเอ๊าท์ที่โหดที่สุดครั้งหนึ่งเลย UFC 274 นี้มันส์จริงๆ