เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ (เอดีที) และ มีนา ทัวร์ เผยโปรแกรมการแข่งขัน “Beautiful Thailand Swing” จัดดวล 4 รายการที่ภูเก็ต ในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นจัดทัวร์นาเมนต์ร่วมกันระหว่างเอดีทีและมีนาทัวร์ หลังจากประกาศจับมือร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
การแข่งขัน บิวตี้ฟูล ไทยแลนด์ สวิง ทั้ง 4 รายการ ชิงชัยเงินรางวัลรายการละ 75,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.5 ล้านบาท แข่งแบบสโตรกเพลย์ 3 วัน หลังจบการแข่งขัน 36 หลุมจะตัดตัวที่อันดับ 50 หรือเสมอผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย โดยแต่ละรายการจะหยุดพัก 2 วัน โดยสองทัวร์นาเมนต์แรกดวลกันที่สนามลากูนา ภูเก็ต ประเดิมด้วยรายการ “ลากูนา ภูเก็ต ชาลเลนจ์” ระหว่างวันที่ 3-6 พฤษภาคม 2565 ตามด้วย “ลากูนา ภูเก็ต คัพ” ระหว่างวันที่ 8-10 พฤษภาคม 2565 จากนั้นจะย้ายไปแข่งที่สนามบลูแคนยอน คันทรี คลับ ในรายการ “บลูแคนยอน คลาสสิค” ระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคม 2565 และปิดท้ายด้วยรายการ “บลูแคนยอน โอเพ่น” ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2565
การแข่งขันกอล์ฟเอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ หรือเอดีที ซึ่งเป็นทัวร์รองของเอเชียนทัวร์ เพิ่งกลับมาจัดการแข่งขันได้อีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในรายการ Gurugram Challenge ที่ประเทศอินเดีย หลังจากต้องหยุดพักไป 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด และจะมาแข่งขันกันต่อที่ภูเก็ต 4 รายการในเดือนหน้า
โช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและประธานบริหารของเอเชียนทัวร์ กล่าวว่า “เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ คือส่วนสำคัญในการพัฒนาของเรา และในขณะที่เราต่างยินดีที่ได้เห็นทัวร์กลับมาเริ่มแข่งใหม่ที่อินเดียเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนี้เราตื่นเต้นมากที่ได้ประสานความร่วมมือกับมีนาทัวร์จัดการแข่งขัน 4 รายการที่ภูเก็ต นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญในการกลับมาของเรา”
ด้านเดวิด สเปนเซอร์ กรรมาธิการมีนาทัวร์ กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้กลับมาแข่งขันอีกครั้งในเดือนหน้า หลังจากรอคอยมาอย่างยาวนาน เป็นเรื่องน่ายินดีที่ความพยายามทำงานอย่างหนักของเราได้ผล สมาชิกในทัวร์ของเรายังมีรางวัลให้ได้ลุ้นอีกมากมาย เนื่องจากโปรแกรมการแข่งขัน บิวตี้ฟูล ไทยแลนด์ สวิง จะถูกนำมานับรวมเพื่อปิดฉากฤดูกาล 2020+ และตัดสินหาตำแหน่งแชมป์ทำเงินรางวัลสูงสุดของมีนาทัวร์ หรือ เจอร์นีย์ ทู จอร์แดน (Journey to Jordan)”
ทั้งนี้นักกอล์ฟใน 10 อันดับแรกของอันดับทำเงินรางวัลมีนาทัวร์ หรือ เจอร์นีย์ ทู จอร์แดน หลังจบฤดูกาล 2020+ จะได้รับเชิญร่วมแข่งขันใน 2 รายการถัดไปของเอดีที ต่อจากทัวร์นาเมนท์ที่ภูเก็ต ทางด้านนักกอล์ฟทำเงินรางวัลสูงสุด จะได้สิทธิ์รับเชิญเข้าร่วมชิงชัย 1 รายการในโปรแกรมการแข่งขัน “ดิ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ 2022” ของเอเชียนทัวร์
ส่วนนักกอล์ฟใน 7 อันดับแรกของอันดับทำเงินรางวัลเอดีที หรือ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต เมื่อจบฤดูกาลจะได้ตั๋วเข้าไปเล่นในเอเชียน ทัวร์ ฤดูกาลหน้า โดยการแข่งขันเอดีที จะนับรวมรายการบุญชู เรืองกิจ แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนมกราคมปี 2563 ที่ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ คว้าแชมป์ไปครอง เป็นรายการแรกของฤดูกาลใหม่นี้ด้วย