xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์ปรับกลยุทธ์ ใช้วัคซีนพ่นจมูก สกัดโควิดตั้งแต่ต้นทาง / พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”

"พี่หมอผมตกลงจะไปรับวัคซีนเข็ม 3 แล้วนะครับ" เจ้าเก่งหน้าบานบอกอย่างกล้าหาญ

"อ้าวไหนเอ็งเป็นโรคกลัวเข็มไงลืมแล้วหรอ" พี่หมอยังจำเหตุการณ์ตอนเจ้าเก่งฉีดเข็ม 2 ร้องโวยวายจนป้าพยาบาลตบตกเก้าอี้ด้วยความตกใจ

"ก็เดี๋ยวนี้มีวัคซีนแบบฉีดพ่นจมูกแล้วไม่ใช่หรอครับพี่หมอ"

"เออใช่จะเริ่มทดลองใช้เร็วๆ นี้แล้ว"

วัคซีนต้านโควิด-19 ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อลดอาการเจ็บป่วยรุนแรงได้ แต่การป้องกันการติดเชื้อยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร รวมทั้งประสิทธิภาพอาจจะลดลงไปอีกเมื่อเกิดการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นจนนำไปสู่การผลักดันให้ต้องฉีดวัคซีนบูสเตอร์หรือวัคซีนเข็มกระตุ้นกันเป็นวงกว้าง

ขณะที่วัคซีนแบบพ่นจมูกที่หลายประเทศกำลังพัฒนาก็ถูกยกขึ้นมาพูดถึงว่าอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อในระยะยาว เนื่องจากมีคุณสมบัติในการป้องกันและสกัดเชื้อไวรัสที่จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางระบบทางเดินหายใจตั้งแต่ต้น

สำหรับการพัฒนาแบบพ่นจมูกในไทยซึ่งขณะนี้ทีมนักวิจัยไบโอเทคได้พัฒนาวัคซีนพ่นจมูกที่ได้ผ่านการทดลองในสัตว์แล้วคาดว่าจะทดสอบในมนุษย์ได้ในไตรมาสสองของปีนี้ ข้อดีคือใช้งานง่ายเป็นวัคซีนที่พ่นละอองฝอยในโพรงจมูกผ่านเข็มฉีดยาชนิดพิเศษที่ได้รับการออกแบบเพื่อส่งวัคซีนไปเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในเยื่อของระบบทางเดินหายใจโดยตรง ซึ่งไวรัสส่วนใหญ่มักจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูกและก่อตัวึ้นในโพรงจมูกก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายรวมถึงปอด

มากไปกว่านั้นยังมีสเปรย์แอนดี้บอดี้พ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด ซึ่งสเปรย์แอนดี้บอดี้ได้ผ่านการทดสอบเบื้องต้นในสัตว์ทดลองแล้วมีผลเป็นที่น่าพอใจคาดว่าจะผลิตออกมาสู่ตลาดผ่าน อย.ประมาณไตรมาสสามของปีนี้

ไบโอเทคระบุว่าการเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ประชากรด้วยวิธีการฉีดพ่นวัคซีนทางจมูกหรือปากจะสามารถทำได้เร็วกว่าการฉีดวัคซีนด้วยเข็มหากอยู่ในช่วงการระบาดหนัก วัคซีนที่พ่นทางจมูกจะสกัดโดยตรงไปที่ทางเข้าของไวรัส โดยจะสร้างชั้นเมือกเคลือบที่ผิวของโพรงจมูกปากและลำคอเป็นภูมิคุ้มกันระยะยาวดักจับไม่ให้ไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อรวมทั้งการแพร่เชื้อได้ดีกว่ามาก เพราะถ้าเปรียบเทียบกับการป้องกันข้าศึกบุกเมืองการตั้งป้อมปราการที่ประตูเพื่อป้องกันผู้บุกรุกย่อมดีกว่าการพยายามขับไล่เมื่อเขาบุกเข้ามาในเมืองแล้ว วัคซีนพ่นจมูกจึงเป็นทางเดียวที่จะช่วยป้องกันการแพร่เชื้อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ดีที่สุด ซึ่งแพทย์หญิงอากิโกะ อิวาซากิ นักภูมิคุ้มกันวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเยล ระบุว่าวัคซีนแบบพ่นจมูกนี้จะช่วยเคลือบทางเดินหายใจยาวไปจนถึงปอดไม่ได้ป้องกันแค่ปลายจมูกเท่านั้น

กลไกการทำงานนี้คือการไปดักจับไวรัสโควิดที่ทางเข้าจมูกไม่ให้ไปจับกับเซลล์ของร่างกาย ซึ่งจะสามารถป้องกันได้ทุกสายพันธุ์อีกด้วยโดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน โดยพ่นวันละ 3 ครั้งจนถึงขณะนี้นักวิจัยขอเพียงผลการทดลองเพื่อให้ชัดเจนว่าวัคซีนแบบพ่นจมูกนี้จะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากน้อยเพียงใดและป้องกันได้นานแค่ไหน แต่ไม่น่าจะเสียหายหากจะมีการใช้วัคซีนแบบนี้โดยเร็ว
กำลังโหลดความคิดเห็น