คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ไปไม่ถึงดวงดาว สำหรับไมเคิ่ล คอนแลน “ไอ้หนุ่มนิ้วกลาง” นักชกไอร์แลนด์เหนือ ผู้สร้างชื่อโด่งดังไปทั่วโลกใน “ริโอเกมส์” โอลิมปิกปี 2016 เมื่อขึ้นชกมวยสมัครเล่นในรุ่นแบนตั้มเวท และพ่ายคะแนนให้กับวลาดิเมียร์ นิคิติน แบบค้านสายตา พอรู้ผลนักชกไอริชรายนี้ก็ยกนิ้วกลางแจกกรรมการให้คะแนนรอบเวที ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเมื่อ “ไอบ้า” พยายามล้างภาพพจน์เรื่องการตัดสิน และให้องค์กรอิสระทำการศึกษาผลการตัดสินมวยในโอลิมปิก 2016 ไฟต์ที่คอนแลนแพ้ตกรอบนี้ก็พบว่าเป็นไฟต์หนึ่งที่ตัดสิน “เอียง” จริงๆ
แต่ไมเคิ่ล คอนแลน ไม่รอผลการสอบสวนแล้ว พอจบ “ริโอเกมส์ 2016” ก็เทิร์นโปรหันมาชกอาชีพทันที และชนะรวดมา 16 ไฟต์ รวมทั้ง “ล้างตา” เอาชนะคะแนน “คู่ปรับเก่า” วลาดิเมียร์ นิคิติน ในการพบกัน 10 ยกเมื่อเดือนธันวาคม 2019 ได้ และล่าสุดก็เป็นแชมป์ “เฉพาะกาล” ของสมาคมมวยโลก WBA ในรุ่นเฟเธอร์เวทด้วย ซึ่งทำให้ได้ชึ้นชกชิงแชมป์โลก “ของจริง” กับ ลีห์ วู้ด นักชกอังกฤษ ที่สังเวียนมอเตอร์พ้อยท์ อารีน่า ในเมืองน็อตติ้งแฮม ในอังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ศึกนี้นักชกทั้งคู่ซดกันดุเดือด ไมเคิ่ล คอนแลน ทิ่มซ้ายตรงเข้าเต็มหน้าลีห์ เจมส์ หงายท้องผลึ่งโดนนับ 8 ไปก่อนตั้งแต่ยกแรก จากนั้น “ไอ้หนุ่มนิ้วกลาง” ก็เดินแลกหมัดกับแชมป์โลกอย่างสนุก โดยยกต้นๆ ทำได้ดีกว่าจริงๆ แต่พอยกท้ายๆ นักชกไอริชทำท่าอ่อนแรง โดนแชมป์โลกชาวอังกฤษไล่ทุบคืนจนเอียงไปเอียงมา แถมยก 11 ยังโดนฮุคขวาของลีห์ เจมส์ จนร่วงไปให้กรรมการนับ 8 บ้าง จบ 11 ยก “ไอ้หนุ่มนิ้วกลาง” คะแนนนำอยู่ 104-103, 105-102 และ 105-102 เรียกว่าถ้ายก 12 วิ่งวนไปรอบๆ จนครบยก ก็เป็นแชมป์โลกคนใหม่ทันที
แต่แชมป์โลกชาวอังกฤษไม่ยอมง่ายๆ ออกมาชวนทะเลาะด้วยตั้งแต่ต้นยก ไล่ทิ่มไปเรื่อยๆ ไมเคิ่ล คอนแลน พยายามทิ่มซ้ายสวน แต่ลีห์ เจมส์ ไม่ยอม และต้อนนักชกไอริชไปติดเชือก ทิ่มขวาเข้าเต็มหน้าจนไมเคิ่ล คอนแลน “วูบ” แขนตกห้อยหัวทิ่ม ก้นที่พิงเชือกอยู่หลุดออกจากเส้นเชือกตัวร่วงลงไปนอกเวที กรรมการยุติการชกทันทีด้วยเวลา 1:25 นาทีในชกสุดท้าย นักชกไอริชชวดแชมป์โลกแบบน่าเสียดาย แถมถูกหามขึ้นรถโรงพยาบาลไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที แต่เอ๊ดดี้ เฮิร๋น โปรโมเตอร์ก็บอกว่าไมเคิ่ลรู้สึกตัวดี พูดตลอดเวลาที่อยู่ในรถพยาบาล ไม่มีอะไรต้องห่วง
ไฟต์นี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่ามวยโลกยุคปัจจุบันต้องขยันออกหมัด เดินซดกันตลอดเวลา ไฟต์นี้ก็มีโอกาสลุ้นเป็น “ไฟต์แห่งปี” ได้เลย นักชกไทยที่จะสร้างชื่อให้ดังในระดับโลกได้ขอให้ศึกษาและเอาเป็นแบบอย่างไว้ครับ