คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) พร้อมด้วย ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ที่ปรึกษาคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และที่ปรึกษาประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเซีย (โอซีเอ) เดินทางมาเยี่ยมชมบูธกิจกรรม “มวยไทย มรดกทางวัฒนธรรมของไทย สู่ระดับโลก” ซึ่งจัดโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการจัดแสดงของประเทศไทย (Thailand Pavilion) ภายในงานมหกรรมนิทรรศการโลก “เวิลด์ เอ็กซ์โป ดูไบ 2020” (World Expo Dubai 2020) ณ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565
คุณหญิงปัทมา เปิดเผยว่า ประทับใจ Thailand Pavilion ซึ่งมีแนวคิดในการเผยแพร่ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม แลเมรดกไทย ไปจนถึงความเจริญก้าวหน้าด้านการพัฒนาเทคโนโลยีของไทย ทั้งหมดนี้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของพี่น้องชาวไทย การที่จะมาถึงวันนี้ได้เราต้องมีรากฐานที่สำคัญ และยั่งยืน หนึ่งในนั้นคือ กีฬามวยไทย ที่บ่งบอกถึงความกล้าหาญ เด็ดขาด พลัง และความแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็มีความอ่อนช้อยงดงาม และสนุกสนุน ทั้งนี้ต้องขอบคุณรัฐบาลไทย และทุกภาคส่วนที่สร้างผลงานเป็นที่ประทับใจของชาวโลกที่อดทนต่อแถวรอเข้าชมการจัดแสดงกันเป็นจำนวนมาก
คุณหญิงปัทมากล่าวอีกว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนกำลังพยายามอย่างเต็มที่ผลักดันให้มวยไทยถูกบรรจุในการแข่งขันระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นระดับเอเชีย เยาวชนโอลิมปิก จนกระทั่งถึงโอลิมปิกฤดูร้อน ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังอยู่ในขั้นตอนต่างๆ และต้องอาศัยระยะเวลา ซึ่งหลังจากนี้จะค่อยๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าพูดถึงกระแสนิยมไม่รู้สึกกังวลเลย เพราะมวยไทยเป็นที่นิยมในทุกประเทศ และทุกทวีป แต่เนื่องจากมวยไทยเพิ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ให้เป็นสหพันธ์กีฬานานาชาติ เมื่อปีที่ผ่านมา ดังนั้นก็จะต้องเป็นไปตามขั้นตอนในการบรรจุชิงชัยโอลิมปิกฤดูร้อน
“เราจะต้องมีการบรรจุกีฬามวยไทยในมหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ที่สามารถบรรจุแข่งขันได้ตรงกับการแข่งขัน รวมทั้งบีชเกมส์ ซึ่งมวยไทยเล่นได้ทั้งในร่ม และบนชายหาด ดังนั้นโอกาสที่มวยไทยจะปรากฎในสายตาชาวโลกในการถ่ายทอดสดการแข่งขันก็จะมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางไอโอซีไม่ได้มีการเขียนกำหนดเป็นตัวหนังสือว่าจะต้องทำอย่างไรในการบรรจุเข้าโอลิมปิก แต่เราจะต้องทำให้มวยไทยเป็นที่นิยม และอยู่ในการถ่ายสดมหกรรมกีฬาในระดับต่างๆ”
คุณหญิงปัทมากล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเข้าร่วมประชุมการต่อต้านใช้สารต้องห้ามระดับทวีปเอเชีย และโอเชียเนีย ครั้งที่ 17 ที่นครดูไบนั้น ต้องขอบคุณนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เดินทางมาร่วมประชุมกับองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) และรัฐมนตรีประเทศต่างๆ ในระดับทวีปเอเชีย และโอเชียเนีย ซึ่งการประชุมได้เน้นย้ำถึงการให้ความรู้กับนักกีฬา และคณะ ในเรื่องโทษ อันตราย และความไม่ปลอดภัยทุกประการ รวมถึงความผิดในการใช้สารต้องห้ามต่างๆ
“วาด้าได้เน้นย้ำว่าเราจะต้องให้ความรู้เพื่อให้เป็นกีฬาที่สะอาด ทั้งกรีน สปอร์ต และคลีน สปอร์ต โดยได้มีการเน้นย้ำถึงการลงโทษอย่างจริงจังกับการกระทำผิดกฎผิดระเบียบในเรื่องการใช้สารต้องห้าม โดยมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายๆ ข้อในเรื่องวิธีการ แต่ก็อยู่ในความพยายามของเราที่จะให้ความรู้ในเรื่องนี้” คุณหญิงปัทมากล่าวปิดท้าย
สำหรับบูธกิจกรรม “มวยไทย มรดกทางวัฒนธรรมของไทย สู่ระดับโลก” จัดแสดงช่วงระหว่างวันที่ 11-15 มีนาคม โดยมีกิจกรรมต่างๆ และการแสดงแม่ไม้มวยไทย เพื่อเป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของมวยไทยที่ทำให้มีความโดดเด่นและถือเป็นศิลปะชั้นสูง ไปสู่ระดับโลก ต่อยอดไปสู่การบรรจุกีฬามวยไทยเข้าสู่การชิงชัยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในอนาคตข้างหน้า
