คอรักบี้ไทยมีอะไรตื่นเต้นกันอีกครั้ง เมื่อทีมรวมทหารตำรวจ เตรียมพบกับ ทีมรวมพลเรือน ในการแข่งขันรักบี้ประเพณี 15 คน โดยนักกีฬาซุเปอร์สตาร์ระดับประเทศพร้อมตบเท้าเข้าร่วมแข่งขันกันอย่างคับคั่ง ณ ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับนายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ร่วมกันเป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันรักบี้ 15 คนประเพณี กาชาดไทย
ระหว่าง ทีมรวมทหารตำรวจ พบกับ ทีมรวมพลเรือน เพื่อการกุศล ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 23 เมษายนนี้ ที่สนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย โดยรายได้ทุกบาททุกสตางค์จะเข้าสู่สภากาชาดไทย พร้อมมีแคมเปญบริจาคโลหิตเพื่อการกุศลด้วย
การแข่งขันรักบี้ 15 คนประเพณีกาชาดไทยครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี โดยจัดครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่สนามกีฬากองทัพบก ซึ่ง พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ ประมุขสมาคมรักบี้ไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำรักบี้ประเพณีรายการนี้กลับมาปัดฝุ่นจัดแข่งขันอีกครั้ง พร้อมประสานช่อง T-Sports7 ถ่ายทอดสดเต็มเกมแบบไม่มีกั๊ก
“เราตั้งใจสร้างความคึกคักให้วงการรักบี้ไทยอีกครั้งในปีนี้ หลังจากที่เราทุกคนต้องเผชิญการภาวะวิกฤติโควิด-19 กันอย่างถ้วนหน้าตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยการแข่งขันที่เปรียบเสมือนการรวมซุเปอร์สตาร์ของทั้งประเทศมารวมกัน” พ.ต.ท.กุลธน กล่าวเริ่ม
“แต่การรวมตัวของพวกเราชาวรักบี้ฟุตบอลไทย ต้องการทำอะไรให้ได้มากกว่าการแข่งขัน จึงตั้งใจรื้อฟื้นการแข่งขันรักบี้ 15 คนประเพณี กาชาดไทยที่ห่างหายไปนานกว่า 15 ปี พร้อมด้วยแคมเปญการกุศล ที่จะช่วยเหลือสังคม”
“รายการนี้เป็นรายการที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน วันนี้เรากลับมาจัดอีกครั้ง ด้วยจุดมุ่งหมาย และความตั้งใจให้ทุก ๆ คนมีความสุข และแฟน ๆ รักบี้ รวมถึงเยาวชนทั่วประเทศ จะได้มีส่วนร่วมแมตช์นี้ด้วย โดยเราได้จับมีกับ T-Sports7 ถ่ายทอดสดแบบเต็มเกมวันที่ 23 เมษายนนี้” บิ๊กต้น กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับการแข่งขันรักบี้ประเพณีกาชาดไทยเพื่อการกุศลนั้นเริ่มจัดครั้งแรกในปี พ.ศ.2501 ชิงถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระบรมราชินีนารถ โดยรายได้นำเข้าถวายเป็นพระราชกุศลองค์สภานายิกาสภากาชาด หรือบางปีมอบให้แก่คนพิการไทย อย่างไรก็ตามการแข่งขันรักบี้กาชาดไทยได้ห่างหายไปตามยุคตามสมัยจากสถานการณ์บ้านเมืองและความนิยมในกีฬารักบี้ลดน้อยลงไป ก่อนกลับมาจัดแข่งขันอีกครั้งในปีนี้
