คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
นัดแรกเอาชนะมาได้อย่างหวุดหวิด 1-0 ในนาทีที่ 90+4 ที่ ป๊าก เด แปร๊งส์ (Parc des Princes) ใน กรุงปารี (Paris) ด้วยความเร็วแหวกทะลุ 2 กองหลังและซัดประตูอย่างเฉียบของ คีเลียน อึมบั๊ปเป (Kylian Mbappé) กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส แช้มพ์โลก วัย 23 ปี ฟุตบอล ยูเอ๊ฟฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021-22 (2021–22 UEFA Champions League) รอบน้อค-เอ๊าท์ 16 ทีม นัดที่ 2 คืนนี้ ปารี แซ็ง-แฌรแม็ง (Paris Saint-Germain) ต้องไปเป็นทีมเยือนบ้างที่ เอ๊สตาดิโอ ซานติอาโก แบรนาเบอู (Estadio Santiago Bernabéu) ใน กรุงมาดริด ของ เรอัล มาดริด โดยอาจไม่มี KM เป็นตัวจบสกอร์
ดังที่ทราบกันแล้วว่า ยูเอ๊ฟฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน้อค-เอ๊าท์ หนนี้จะไม่ใช้กฎการทำประตูนอกบ้าน (Away goals rule) ที่ถูกบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 1965 อีกต่อไป โดย สหสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ๊ฟฟ่า (UEFA) รับรองข้อเสนอให้ตัดกฎดังกล่าวออกจากการแข่งขันสโมสรทวีปยุโรปทุกๆรายการตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2021 ดังนั้น ใน รอบน้อค-เอ๊าท์ ทุกรอบที่เป็นการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน เมื่อรวมสกอร์ทั้ง 2 นัดแล้วยังมีผลเท่ากันก็ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที แบ่งเป็นครึ่งละ 15 นาที ถ้ายังเสมอกันอีกก็ดวลจุดโทษเลยเพื่อหาทีมชนะได้เข้ารอบต่อไป
ในศึกช็อคโลกกับ ทีมชุดขาว นัดนี้ คีเลียน (KM) อาจไม่ได้ลงเล่น เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่ฝ่าเท้าซ้ายจากการปะทะกับ อีดริ๊สซา เกย์ (Idrissa Gueye) ในขณะฝึกซ้อมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งบางคนบอกว่า เปแอ๊สเฌ ก็ยังมีสุดยอดนักเตะอีกหลายคน เช่น ลิโอเน็ล เม้สซี (Lionel Messi) เนย์มาร (Neymar) อังเฆ็ล ดี มาริอา (Angel Di Maria) มารโก แวรร้าตตี (Marco Verratti) หรือ มารกินโญ้ส (Marquinhos) อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นข่าวลวงเพื่อล่อให้ การโล อันเชล้อตตี (Carlo Ancelotti) โค้ชของ ทีมชุดขาว เกิดสับสนในการวางแผนรับมือก็ได้ หรือถ้าเป็นความจริง คีเลียน ก็อาจฟื้นตัวได้แต่ไม่เต็ม 100% และอาจถูกส่งตัวลงมาช่วยทีมในครึ่งหลังหากจำเป็น ซึ่งอย่างน้อยก็ย่อมมีความสดกว่ากองหลังของ โล้ส บลังโก๊ส (Los Blancos) อย่างแน่นอน
หลังเกม ลีก เอิง (Ligue 1) ลีกสูงสุดของ ฝรั่งเศส นัดล่าสุดเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาที่ เปแอ๊สเฌ บุกไปแพ้ นี้ส (Nice) 1-0 ที่ สนาม อัลลิอั๊นซ์ รีวิเอรา (Allianz Riviera) นั้น คีเลียน ไม่มีชื่อลงสนามเพราะติดโทษแบน อันนี้ คริสต๊อฟ กัลติเอ (Christophe Galtier) โค้ชของ นี้ส ออกมาบอกเลยว่า ตลอด 90 นาที ทีมจ่าฝูงบุกอย่างไร้ผลและไม่มีโอกาสสร้างความตระหนกให้กับ นี้ส แม้แต่น้อย ซึ่งนี่คือความแตกต่างของ PSG ที่มี คีเลียน กับ PSG ที่ไม่มี คีเลียน
ในเรื่องการทำประตูสูงสุดตลอดกาลในฟุตบอลยุโรปนั้น ถึงตอนนี้ คริชติอาโน โรเนาโด (Cristiano Ronaldo) ที่เล่นมาตั้งแต่ปี 2003 รั้งอันดับ 1 ลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 182 นัด ยิงไป 140 ประตู ลิโอเน็ล เม้สซี (Lionel Messi) และ โรเบิร์ต เลวันด๊อฟสกี้ (Robert Lewandowski) ตามมาอันดับ 2 และ 3
สำหรับ KM นั้นลงเล่นในถ้วยยุโรปตั้งแต่ปี 2016 ทั้งกับ โมนาโก (Monaco) และ เปแอ๊สเฌ รวม 52 นัด ยิงไป 32 ประตู ติดอันดับที่ 23 เป็นรองนักเตะฝรั่งเศสแค่ การิม เบ็นเซมา (Karim Benzema) ที่เริ่มเล่นปี 2005 รวม 136 เกม ยิง 76 ประตู รั้งอันดับ 4 อีกคนคือ ติเอรี อ็องรี (Thierry Henry) ติดอันดับ 7 ลงเล่นช่วงปี 1997-2012 รวม 112 นัด ยิง 50 ประตู KM น่าจะแซงรุ่นพี่ได้ในที่สุดเพราะยังเหลือหนทางข้างหน้าอีกยาวไกล นี่น่าจะชี้ให้เห็นถึงพิษสงของกองหน้าจ้าวแห่งความเร็วรายนี้ได้เป็นอย่างดี ขนาด โทมัส ทูเคิ่ล (Thomas Tuchel) อดีตโค้ชของ เปแอ๊สเฌ ชาวเจอรมนี ยังขนานนามให้ว่า “ฉลามร้าย” เลย
อย่างไรก็ตาม แม้ KM จะสามารถลงสนามได้อย่างไร้ปัญหา ก็ใช่ว่ากองหน้า 3 ประสาน อึมบั๊ปเป เนย์มาร และ เม้สซี ที่เรียกว่า MNM (Mbappé, Neymar, Messi) จะเป็นสูตรสำเร็จที่นำทีมคว้าชัยเสมอไป สถิติที่น่าสนใจคือ เกมที่ เปแอ๊สเฌ พ่ายแพ้ในฤดูกาลนี้รวม 5 เกมนั้น มี 3 เกมที่ MNM ลงสนามพร้อมกันตั้งแต่ต้นเกม และเมื่อรวมเกมทั้งหมดที่มี MNM ลงเล่นพร้อมกันแล้ว เปแอ๊สเฌ เอาชนะได้เพียง 50% เท่านั้น โดยทำประตูได้เฉลี่ยต่อเกม 1.6 ประตูเท่านั้น และเสียประตูถึง 1.2 ประตู เปรียบเทียบกับเกมที่ไม่มี MNM ครบทั้ง 3 คน เปแอ๊สเฌ กลับเก็บชัยชนะได้ถึง 71% และยิงประตูได้เฉลี่ยต่อเกมถึง 2.2 เสียเพียงแค่ 0.8 ประตูเท่านั้น