โรมัน อบราโมวิช เจ้าของ เชลซี กำลังจะปิดฉาก 19 ปี แห่งความยิ่งใหญ่ ประกาศขายสโมสรอย่างเป็นทางการ เนื่องจากหวาดกลัวการคว่ำบาตรของ รัฐบาลสหราชอาณาจักร ภายหลังเหตุการณ์ รัสเซีย รุกราน ยูเครน
"เดอะ ซัน" แท็บลอยด์ของอังกฤษ เผยแคนดิเดต ซึ่งจะเข้ามาสานต่องานของ มหาเศรษฐีวัย 55 ปี ซึ่งกวาด 21 โทรฟี รวม พรีเมียร์ ลีก 5 สมัย และ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2 สมัย ตั้งแต่ชายผู้มั่งคั่งสุดของ สหราชอาณาจักร จนถึง เจ้าของ แอลเอ เลเกอร์ส คนปัจจุบัน
เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ทรัพย์สินสุทธิ 6.33 พันล้านปอนด์ (2.76 แสนล้านบาท)
เป็นชายผู้มั่งคั่งสุดของ สหราชอาณาจักร เมื่อปี 2018 แต่ทรัพย์สินของเขาลดลงอย่างเหลือเชื่อตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ณ เวลานั้น ทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ 12,000 ล้านปอนด์ (5.2 แสนล้านบาท) สูงสุดในการจัดอันดับของ ซันเดย์ ไทม์ส กระทั่งปี 2021 เขาหล่นลงมาอันดับ 25 ทรัพย์สินสุทธิเหลือ 6,330 ล้านปอนด์
แร็ตคลิฟฟ์ เป็นผู้ก่อตั้ง "อิเนออส กรุ๊ป" บริษัทด้านเคมีภัณฑ์ ซึ่งมีลูกจ้่าง 19,000 คนทั่วโลก ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง, น้ำมันหล่อลื่น, ภาชนะบรรจุอาหาร และ วัสดุก่อสร้าง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
ถึงแม้ แร็ตคลิฟฟ์ วัย 69 ปี เป็นแฟนตัวยง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมีข่าวเชื่อมโยงเทกโอเวอร์สโมสร แต่เขายังถือตั๋วปีของ เชลซี
แร็ตคลิฟฟ์ มีประวัติด้านการลงทุนเกี่ยวกับกีฬา ควักเงิน 91 ล้านปอนด์ (4 พันล้านบาท) ซื้อกิจการ นีซ สโมสรของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส และเป็นเจ้าของทีมจักรยาน อิเนออส เกรนาเดียร์ส ซึ่งเคยคว้าแชมป์ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 7 สมัย ภายใต้ชื่อ ทีมสกาย
ท็อดด์ โบห์ลี ทรัพย์สินสุทธิ 4 พันล้านปอนด์ (1.7 แสนล้านบาท)
เคยแสดงความสนใจซื้อ เชลซี เมื่อปี 2019 แต่ถูก อบราโมวิช ปฏิเสธข้อเสนอ 3 พันล้านปอนด์ (1.3 แสนล้านบาท)
ปัจจุบัน โบห์ลี วัย 46 ปี ดำรงตำแหน่งประธาน และซีอีโอ "เอลดริดจ์ อินดัสตรี" บริษัทโฮลดิง ซึ่งเข้าไปลงทุนด้านต่างๆ อาทิ อสังหาริมทรัพย์, เทคโนโลยี, กีฬา และอื่นๆ
โบห์ลี มีเชื่อสายเยอรมัน โดยรุ่นปู่ย่าตายาย อพยพมายังประเทศสหรัฐอเมริกา และเขาเป็นสมาชิกทีมมวยปล้ำ ระดับแชมป์ของมลรัฐ เมื่อปี 1990 และ 1991
ด้านธุรกิจ โบห์ลี ลงทุนด้านกีฬาอย่างมหาศาล โดยเฉพาะที่มหานคร ลอส แองเจลิส ครอบครอง แอลเอ เลเกอร์ส (บาสเกตบอล), แอลเอ ด็อดเจอร์ส (เบสบอล) และ แอลเอ สปาร์กส (บาสเกตบอลหญิง) รวมถึงเจียดเวลาทำงานเพื่อการกุศล
ฮันสยอร์ก วีสส์ ทรัพย์สินสุทธิ 4 พันล้านปอนด์ (1.7 แสนล้านบาท)
เป็นผู้ก่อตั้ง "ซินเธส ยูเอสเอ" บริษัทผลิตเครื่องมือแพทย์ด้านศัลยกรรมกระดูกใหญ่สุดของโลก สร้างรายได้มหาศาลจากการขายกิจการให้ "จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน" มูลค่า 14,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6 แสนล้านบาท)
ไม่นานมานี้ "ฟอร์บส" ตั้งฉายา วีสส์ ซึ่งไม่เคยคลุกคลีแวดวงกีฬามาก่อน เป็นชายที่ใจบุญสุนทานมากสุดของโลก โดยบริจาคเงิน 89 ล้านปอนด์ แก่มหาวิทยาลัย 2 แห่ง ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
วีสส์ วัย 86 ปี ออกมาเผยว่า อบราโมวิช เสนอขาย เชลซี แก่เขา รวมถึงมูลค่าหนี้สินของสโมสร 2 พันล้านปอนด์ (87,000 ล้านบาท)
"อบราโมวิช กำลังจะขายแมนชันของเขา ที่อังกฤษ และเขายังต้องการขาย เชลซี โดยเร็ว ผมกับคนอื่นๆ อีก 3 คน ได้รับข้อเสนอซื้อ เชลซี จาก อบราโมวิช ผมต้องรอสัก 4-5 วัน เพราะ อบราโมวิช ตั้งราคาสูงเหลือเกิน"
"คุณรู้ไหม เชลซี ติดหนี้เขาอยู่ 2 พันล้านปอนด์ แต่ เชลซี ไม่มีเงิน จวบจนวันนี้ เรายังไม่ทราบราคาแน่ชัด"
สตีเฟน รอสส์ ทรัพย์สินสุทธิ 6 พันล้านปอนด์ (2.6 แสนล้านบาท)
เป็นเจ้าของไอเดีย ยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ซึ่งถูกต่อต้าน และริเริ่มการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์พรีซีซัน "อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์ คัพ" โดยนำสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปมาลับฝีเท้ากันช่วงซัมเมอร์
รอสส์ วัย 81 ปี ร่ำรวยจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเจ้าของ "Related Companies" ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1972 โดยมีผลงานเด่น คือ การตกแต่งอาคารย่าน นิว ยอร์ก สกายไลน์ และ ฮัดสัน ยาร์ดส
นอกจากนี้ รอสส์ ยังเป็นเจ้าของ ไมอามี ดอลฟินส์ แห่งศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) กับ สนามเหย้า ฮาร์ด ร็อก สเตเดียม มูลค่าเทกโอเวอร์ 830 ล้านปอนด์ (3.6 หมื่นล้านบาท) เมื่อปี 2009 และบริษัทในเครือของเขา "Relevent Sports Group" ยังถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ที่สหรัฐอเมริกา
รอสส์ ไม่เคยแสดงความสนใจซื้อ เชลซี มาก่อน แต่ด้วยความน่าดึงดูดของการเทกโอเวอร์สโมสร ซึ่งลงแข่งในรายการที่บริษัทของตัวเองโปรโมต อาจทำให้เขาร่วมเสนอราคาด้วย
