สตาฟฟ์โค้ชและนักเตะทีมชาติไทย ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด ก่อนการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ โดยผลออกมาพบว่ามีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง มีผลตรวจโควิดออกมาเป็นบวก แต่ยังมีจำนวนเพียงพอ และมีตัวสำรองเปลี่ยน ในการลงแข่งขันกับทีมชาติเวียดนาม ในรอบชิงชนะเลิศ
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สตาฟโค้ชทีมชาติไทย ได้มีการประชุมปรึกษาร่วมกันกับสมาคมฯ ถึงสถานการณ์ความเสี่ยง หากผลการตรวจนักกีฬาเป็นบวก และการนำระเบียบเฉพาะกาลที่ให้ส่งนักกีฬาเพิ่มเติมได้ ในกรณีที่มีการติดเชื้อโควิด-19 ในระหว่างการแข่งขัน
ซัลบาดอร์ บาเลโร่ การ์เซีย เฮดโค้ชทีมชาติไทย U23 กล่าว่า “พวกเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งมีอุปสรรคที่ทุกคนต้องร่วมกันฟันฝ่า จึงอยากจะขอการสนับสนุนจากแฟนบอลทุกคนเพื่อเป็นกำลังใจให้กับทีมในสถานการณ์นี้ และพวกเราทุกคนในทีมขอสัญญาว่าจะทำให้เต็มที่และสู้ให้ถึงที่สุดจนหยดสุดท้าย”
อย่างไรก็ตาม จากการที่ไม่สามารถหาสาเหตุต้นตอของการระบาดได้ ทางสตาฟโค้ช เล็งเห็นเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องหลัก จึงตัดสินใจไม่ใช้สิทธิ์จากระเบียบเฉพาะกาลเรียกให้นักกีฬาที่อยู่นอกบับเบิ้ลมาเพิ่ม เนื่องจากเกรงว่าจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มเติม จนเมื่อทราบผลตรวจก็สามารถยืนยันได้ว่าทีมชาติไทยยังมีนักกีฬาเพียงพอ ทั้งตัวจริงและสำรอง ในการลงทำการแข่งขันได้
สำหรับทีมชาติไทยชุดชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ สนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง True4U
