เกิดประเด็นดราม่า เมื่อนักกีฬาอย่าง จู อี้ หรือ เบเวอร์ลี่ จู โดนแฟนชาวจีนด่านว่าเป็นสายลับอเมริกัน พร้อมไล่กลับสหรัฐฯ จากความผิดพลาดระหว่างการแข่งขันกีฬาปักกิ่ง โอลิมปิก ฤดูหนาว 2022
ทั้งนี้ จู อี้ วัย 19 ปี ที่ก่อนหน้าถือสัญชาติอเมริกัน อันเป็นแผ่นดินเกิด ยอมสละมาใช้สัญชาติจีน ตามคุณพ่อ-คุณแม่ ที่อพยพไปทำงานในแคลิฟอร์เนีย โดยเฉพาะคุณพ่อของเธอเป็นอาจารย์ทำงานด้านวิทยาศาสตร์ จนประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงเป็นที่นับหน้าถือตาของมหาวิทยาลับแคลิฟอร์เนีย
อย่างไรก็ตามแฟนกีฬาชาวจีนกลับไม่ได้หลงใหลได้ปลื้มกับนักกีฬาสาวรายนี้ แม้เจ้าตัวจะสละสัญชาติอเมริกันเพื่อลงแข่งในนามทีมชาติจีนตั้งแต่ 8 ขวบก็ตาม
โดยมีการตั้งข้อตำหนิคุณพ่อของ จู อี้ ว่าร่ำเรียนจนจบจากมหาวิทยาลัยในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนแท้ๆ แต่กลับนำความรู้และความสามารถที่มีไปสร้างความสำเร็จกับประเทศอื่น โดยเฉพาะยังเป็นสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคู่แข่งตลาดกาลของจีนด้วยแล้ว
นอกจากนี้ยังมีการนำเอา จู อี้ ไปเปรียบเทียบกับ ไอลีน กู่ นักสกีสาวดาวรุ่งวัยเพียง 18 ปี ที่มีคุณแม่เป็นชาวจีน แต่มีคุณพ่อเป็นชาวอเมริกัน เกิดที่ ซาน ฟรานซิสโก แต่กลับทิ้งสัญชาติอเมริกันมาถือสัญชาติจีน
ซึ่งเมื่อถึงการแข่งขันสเก็ตน้ำแข็งลีลาจริง ปรากฎว่า จู อี้ ลื่นล้มหมุนคว้างไปชนป้ายโฆษณาทั้งในการแข่งขันประเภทที และประเภทหญิงเดี่ยว จากความผิดพลาด 2 ครั้งติดต่อกัน ส่งผลให้สาวน้อยรายนี้ถึงกับปล่อยโฮกลางลานน้ำแข็งระหว่างการแข่ง
อีกทั้งภาพความผิดพลาดนี้ยังถูกนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ของจีน พร้อมถ้อยคำด่าทออย่างรุนแรงต่อสาวน้อยวัย 19 ปี อาทิ
- แกมันเป็นพวกสายลับอเมริกัน ตั้งใจทำจีนพลาดเหรียญอยู่แล้วนี่
- เธอคือความขายหน้าของประเทศเรา กลับสหรัฐฯได้แล้ว
- ก่อนมาทำอะไรเพื่อประเทศจีน ไปเรียนภาษาจีนมาก่อน
- ทำผลงานได้แค่นี้แล้วจะมาเล่นให้ทีมชาติเราหรือ
อย่างไรก็ตามกระแสโจมตีดังกล่าวทำให้มีความห่วงใยต่อความรู้สึกนักกีฬาอย่าง จู อี้ ว่าอาจส่งผลร้าย เนื่องจากตัวนักกีฬาอยู่ในวัยเพียง 19 ปี หากโดนความกดดัน หรือถ้อยคำตำหนิเชิงลบแบบนี้อาจส่งผลเสียเรื่องสภาพจิตใจ และอาจถึงขั้นทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตายได้เลย
หลังจบการแข่งขันประเภททีม ที่ จู อี้ ลื่นล้ม เจ้าตัวกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า รู้สึกเสียใจ และอยากลืมความผิดพลาด เพื่อทำผลงานให้ดีในประเภทเดี่ยว แต่เธอก็ล้มระหว่างการแข่งขันอีกครั้ง
และกระแสโจมตีครั้งนี้คนที่คอยออกมาปกป้อง จู อี้ คือ ไอลีน กู่ นักกีฬาร่วมทีมชาติจีน ที่ถูกยกมาเปรียบเทียบเรื่องสัญชาติก่อนหน้านี้ โดย กู่ ระบุถึงการเป็นนักกีฬานั้นมีความยากลำบากกว่าจะก้าวมาถึงจุดที่ติดทีมชาติ พร้อมปกป้องว่าเรื่องความผิดพลาดเกิดกับใครก็ได้