ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ และ เอเชียน ทัวร์ เผยโปรแกรมจัดการแข่งขัน “ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์” และเงินรางวัลสำหรับชิงชัยในฤดูกาล 2022-2023 โดยเพิ่มเงินลงทุนสนับสนุนเป็น 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9.9 พันล้านบาท หลังจากเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์จัดศึกใหญ่ประจำปี 10 รายการ เป็นเวลา 10 ปี โดยเตรียมเปิดฉากรายการแรกที่ประเทศไทยในเดือนมีนาคมนี้
โดยก่อนหน้านี้ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ (LIV Golf Investments) บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อพัฒนาวงการกอล์ฟอาชีพในระดับโลก ได้ประกาศแต่งตั้ง “ฉลามขาว” เกรก นอร์แมน ยอดโปรกอล์ฟระดับตำนานชาวออสเตรเลียนให้ดำรงตำแหน่งประธานบริหารของบริษัท และประกาศความร่วมมือกับเอเชียนทัวร์ จัดการแข่งขันรายการระดับโลกประจำปี 10 รายการ เป็นเวลา 10 ปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ และ เอเชียนทัวร์ ได้เปิดตัวซีรีส์การแข่งขันภายใต้ชื่อ “ดิ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์” ซึ่งจะบรรจุในโปรแกรมการแข่งขันของเอเชียนทัวร์ ฤดูกาล 2022-2023 ประเดิมรายการแรกที่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ หัวหิน ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคมนี้ ชิงชัยเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 49.5 ล้านบาท ต่อด้วยกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษที่สนามเซนจูเรียน คลับ ระหว่างวันที่ 9-12 มิถุนายน ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังจะจัดการแข่งขันที่เกาหลีใต้, เวียดนาม และอินโดนีเซีย จากนั้นจะย้ายสังเวียนไปยังตะวันออกกลางและมาปิดท้ายซีรีส์ที่ประเทศจีน, สิงคโปร์ และฮ่องกง โดยในแต่ละรายการจะมีเงินรางวัลรวมตั้งแต่ 1.5 – 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 50-66 ล้านบาท
นอกเหนือจากการเปิดตัวซีรีส์การแข่งขันและโลโก้ใหม่แล้ว ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ยังเพิ่มเงินลงทุนสนับสนุนเอเชียนทัวร์จากเดิม 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 300 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย ถือเป็นการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการกอล์ฟอาชีพ เพื่อจัดการแข่งขัน 10 รายการใหญ่ทุกฤดูกาลตลอดระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างกระแสความตื่นตัวในวงการกอล์ฟที่มากขึ้นทั้งในเรื่องของแฟนกีฬากอล์ฟ โอกาสทางธุรกิจของผู้สนับสนุน รวมทั้งช่วยสร้างความมั่งคงยั่งยืนให้แก่วงการกอล์ฟอาชีพ หลังจากที่ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากและความไม่แน่นอนที่ผ่านมา
โช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและประธานบริหารของเอเชียนทัวร์ เผยว่า “เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของเอเชียนทัวร์ การแข่งขัน ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ เป็นรายการใหม่ระดับชั้นนำ ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในภูมิภาคนี้ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์แห่งการเจริญเติบโตของเอเชียนทัวร์ รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางการตลาดยุคใหม่อย่าง ลิฟ กอล์ฟ อินเวเสต์เมนต์ และเกร็ก นอร์แมน ซีอีโอของลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ที่สำคัญคือ ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ จะเข้ามารวมในโปรแกรมการแข่งขันเอเชียนทัวร์ซึ่งมีการชิงชัยรวม 25 รายการตลอดฤดูกาล และคาดว่าจะทำสถิติเงินรางวัลรวมสูงสุดด้วย โดยซีรีส์การแข่งขันทั้ง 10 รายการของ ดิ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ จะถ่ายทอดสดไปทั่วโลกเพื่อดึงดูดแฟนกีฬากอล์ฟและโปรกอล์ฟระดับแนวหน้าของโลก”
ด้าน เกร็ก นอร์แมน กล่าวว่า “เรากำลังวางแผนทำให้เอเชียนทัวร์เป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ที่ทรงพลังในเวทีกอล์ฟโลก ตลอดช่วงเวลา 40 ปีในฐานะนักกอล์ฟอาชีพชองผม ผมได้เห็นหลายภาคส่วนของโลกที่ได้ประโยชน์มหาศาลจากกีฬากอล์ฟ จากการเติบโตและการพัฒนาของวงการกีฬากอล์ฟ และตอนนี้เรามีโอกาสทำเช่นนั้นในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และตะวันออกกลาง ด้วยแพลตฟอร์มการลงทุนครั้งสำคัญนี้ ซึ่งทุกคนจะได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นนักกอล์ฟอาชีพ นักกอล์ฟสมัครเล่น กอล์ฟระดับรากหญ้า แฟนกีฬากอล์ฟ ภาคเศรษฐกิจ ชุมชน และผู้ร่วมสนับสนุนต่างๆ ผมมั่นใจมากว่าอนาคตวงการกอล์ฟเอเชียจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”
ทางด้าน คิม จูฮยุง โปรกอล์ฟวัย 19 ปี ดีกรีมือหนึ่งเอเชียนทัวร์ฤดูกาล 2020-2021 กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า “ผมโชคดีที่เริ่มต้นการเป็นนักกอล์ฟอาชีพได้อย่างดีมาก และเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เอเชียนทัวร์กำลังก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่สดใสแบบนี้ถือเป็นโบนัสที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม รวมถึงนักกอล์ฟเอเชียนทัวร์คนอื่นๆด้วย”