ซินซินเนติ เบงกอลส์ ยุติการรอคอยอันยาวนาน 33 ปี เข้าสู่ ซูเปอร์โบว์ล เรียบร้อยแล้ว เอาชนะ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ รองแชมป์เก่า แบบเหลือเชื่อ 27-24 ด้วยฟิลด์โกล 31 หลา ของ อีแวน แม็คเฟอร์สัน ช่วงต่อเวลาพิเศษ ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) รอบชิงชนะเลิศ สายเอเอฟซี (AFC) ที่สนาม แอร์โรว์เฮด สเตเดียม วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม
แซ็ค เทย์เลอร์ เฮดโค้ช ซึ่งยังเป็นเพียงเด็กประถม สมัย เบงกอลส์ ลงเล่น ซูเปอร์โบว์ล ครั้งล่าสุด กล่าว "มันเป็นผลงานของทีมพิเศษที่มีความสามารถทำสิ่งที่เหลือเชื่อ เราบอกไว้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าใครๆ จะเชื่อเราหรือไม่ เราเชื่อ ดังนั้นเราไม่ได้เซอร์ไพรส์แต่อย่างใด"
โจ เบอร์โรว์ ควอเตอร์แบ็กดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2020 นำ เบงกอลส์ พลิกสถานการณ์จากตามอยู่ 18 แต้ม ทาบสถิติคัมแบ็กจากตกเป็นรองมากสุดของเกมชิงแชมป์สาย AFC แซงนำ 24-21 ด้วยฟิลด์โกล 52 หลาของ แม็คเฟอร์สัน
ทว่า แฮร์ริสัน บัตเกอร์ ตัวเตะ แคนซัส ซิตี ตะบันฟิลด์โกล 44 หลา วินาทีสุดท้ายของควอเตอร์ 4 ตีเสมอ 24-24 จึงตัดสินกันช่วงต่อเวลาพิเศษ เหมือนเกมดิวิชันแนล ชนะ บัฟฟาโล บิลล์ส 42-36 สัปดาห์ที่แล้ว
ชีฟส์ ชนะการเสี่ยงเหรียญ เป็นฝ่ายครองบอลบุกก่อนเช่นเดิม ทว่าคราวนี้ แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก ถูก วอนน์ เบลล์ เซฟตี อินเทอร์เซ็ปต์ แค่เพลย์ที่ 3 ของการต่อเวลา จากนั้น เบอร์โรว์ และผองเพื่อน รับผิดชอบส่วนที่เหลือ
ตอนนี้พลพรรค "เสือลายพาดกลอน" มุ่งหน้าสู่ ซูเปอร์โบว์ล ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1989 หลังชนะเกมเพลย์ออฟที่ยืดเยื้อถึงต่อเวลาครั้งแรกของแฟรนไชส์
"หัวหน้าเผ่า" มีโอกาสทำทัชดาวน์เพื่อชัยชนะท้ายควอเตอร์ 4 แต่ มาโฮมส์ ถูก แซม ฮับบาร์ด ดีเฟนซีฟ เอนด์ แซ็ก 2 ครั้งติดต่อกัน จึงทำได้เพียงเตะฟิลด์โกลตีเสมอ
เบงกอลส์ ชนะ "เคซี" 6 จาก 7 เกมล่าสุด แบบเฮด-ทู-เฮด รวม 2 เกมของซีซันนี้ ถึงแม้ตกที่นั่งลำบากช่วงต้นเกม
ทีมของ แอนดี หรีด ทำทัชดาวน์จากการครองบอล 3 ครั้งแรก มาโฮมส์ ขว้าง 3 สกอร์ให้ ไทรีก ฮิลล์, ทราวิส เคลซี และ เมโคล ฮาร์ดแมน นำห่าง 21-3 เป็นผู้เล่นคนที่ 4 ซึ่งขว้างอย่างน้อย 3 ทัชดาวน์ จากการลงสนาม 3 เกมเพลย์ออฟซีซันเดียว
อย่างไรก็ตาม เบอร์โรว์ ไม่ทำให้ผิดหวัง เริ่มต้นการคัมแบ็ก ด้วยการขว้างสั้นให้ ซามาเจ เปอรีน รันนิงแบ็ก หลบหลีกการแท็คเกิล วิ่ง 41 หลาถึง เอนด์ โซน
แคนซัส ซิตี มีลุ้นทำ 4 ทัชดาวน์ติดต่อกัน โดยเฉพาะจังหวะ ไบรอน พริงเกิล รับบอล 10 หลา ส่งผลให้ทีมบุกมาถึงเส้น 15 หลาแดนคู่ต่อสู้ เหลือเวลา 13 วินาที ปลุกเสียงเชียร์แฟนๆ ที่ยังฝังใจกับปาฏิหาริย์ 13 วินาที เกมพบ บิลล์ส
อีลาย แอ็ปเปิล คอร์เนอร์แบ็ก เสียโทษรบกวนปีกตรงเขต เอนด์ โซน ทำให้ ชีฟส์ ขยับมาบุกที่เส้น 1 หลา แต่เปลี่ยนเป็นทัชดาวน์ไม่สำเน็จ จบครึ่งแรกด้วยการขว้างเสียระยะ 1 หลา ของ มาโฮมส์ ให้ ฮิลล์
แม็คเฟอร์สัน เตะฟิลด์โกล 31 หลา ตีตื้นเป็น 13-21 เหลือเวลา 2 นาที 58 วินาทีของควอเตอร์ 3
ซินซินเนติ ได้บอลกลับคืนตรงเส้น 27 หลาแดนคู่ต่อสู้ หลัง บี.เจ. ฮิลล์ ดีเฟนซีฟ แท็คเกิล อินเทอร์เซ็ปต์การขว้างสั้นของ มาโฮมส์ ให้ เดอมาร์คัส โรบินสัน ปีกนอก
2 เพลย์ต่อมา หลัง โจ มิกซัน รันนิงแบ็ก วิ่งได้ระยะ 2 หลา ในดาวน์ที่ 1 ต้องการทัชดาวน์ ที่เส้น 5 หลา จา'มาร์ เชส ปีกรุกกี รับทัชดาวน์ และ เบอร์โรว์ เล่นคอนเวอร์ชัน 2 คะแนนสำเร็จ ขว้างบอลให้ เทรนท์ เทย์เลอร์ ตีเสมอ 21-21 ช่วง 14 วินาทีสุดท้ายของควอเตอร์ 3
สถิติคัมแบ็ก 18 แต้ม ของ ซินซินเนติ เท่ากับ อินเดียนาโปลิส โคลท์ส พลิกชนะ นิว อิงแลนด์ แพทริออตส์ เมื่อปี 2006
เกมนี้ เบอร์โรว์ ขว้างบอลเข้าเป้า 23 จาก 38 ครั้ง ระยะ 250 หลา 2 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์ และ มิกซัน ถือบอล 21 ครั้ง ระยะ 88 หลา ขณะที่ มาโฮมส์ ขว้างคอมพลีต 26 จาก 39 ครั้ง ระยะ 275 หลา 3 ทัชดาวน์ เสีย 2 อินเทอร์เซ็ปต์
ส่วนผลการแข่งขันสาย เอ็นเอฟซี (NFC) ที่สนาม โซไฟ สเตเดียม แอลเอ แรมส์ พลิกจากตามหลัง 10 แต้ม ช่วงควอเตอร์ 4 เอาชนะ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส หวุดหวิด 20-17 ด้วยอินเทอร์เซ้ปต์ของ เทรวิน ฮาเวิร์ด ช่วงท้ายเกม
แรมส์ เริ่มต้นควอเตอร์ 4 ด้วยสกอร์ 7-17 หลังปล่อยโอกาสทำสกอร์หลุดมือหลายครั้ง ทว่าหลังจาก คูเปอร์ คัปป์ รับทัชดาวน์ที่ 2 ของตัวเอง และเตะฟิลด์โกลตีเสมอ 17-17 หลังรอดเสียอินเทอร์เซ็ปต์ จังหวะ จาควิสกี ทาร์ต เซฟตี โฟร์ตีไนเนอร์ส ทำบอลหลุดมือ เจ้าถิ่น บุกมาถึงระยะฟิลด์โกลให้ แม็ตต์ เกย์ เตะระยะ 30 หลา แซงนำ 20-17 เหลือเวลา 1 นาที 46 วินาที
ทีมรับพา แรมส์ สู่ชัยชนะจากเพลย์ จิมมี การ็อปโปโล ควอเตอร์แบ็ก ซาน ฟรานซิสโก เจอ แอรอน โดนัลด์ ดีเฟนซีฟ แท็คเกิล กดดัน จนต้องรีบขว้างทิศทางบอลสูงเกินกว่า จาไมแคล แฮสตี เพื่อนร่วมทีม จะเอื้อมถึง กลายเป็นเข้ามือ ฮาเวิร์ด ไลน์แบ็คเกอร์ แรมส์ เหลือเวลา 1 นาที 9 วินาที
ทำให้ แรมส์ ชำระแค้นจากความปราชัย 6 เกมรวด แบบเฮด-ทู-เฮด กลายเป็นทีมที่ 2 ของประวัติศาสตร์ ซูเปอร์โบว์ล ซึ่งได้ลงเล่นที่บ้านตัวเอง ต่อจาก แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ฤดูกาลที่แล้ว พบ ซินซินเนติ เบงกอลส์ เช้าวันจันทร์ที่ 14 ก.พ. ตามเวลาไทย
เกมนี้ คัปป์ ปีกอันดับ 1 ของลีก ช่วงฤดูกสลปกติ รับบอล 11 ครั้ง 142 หลา 2 ทัชดาวน์ โอเดลล์ เบ็คแฮม จูเนียร์ คู่หู รับบอล 9 ครั้ง 113 หลา และ แม็ตธิว สแตฟฟอร์ด ควอเตอร์แบ็ก ขว้างคอมพลีต 31 จาก 45 ครั้ง ระยะ 337 หลา 2 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์
ส่วน การ็อปโปโล ควอเตอร์แบ็ก โฟร์ตีไนเนอร์ส ขว้างบอลเข้าเป้า 16 จาก 30 ครั้ง ระยะ 232 หลา 2 ทัชดาวน์ ให้ ดีโบ ซามูเอล ปีกนอก กับ จอร์จ คิตเทิล ไทต์เอนด์ ตามลำดับ
ทีมของ ไคล์ ชานาแฮน น่าจะผิดหวังที่สามารถสำเร็จโทษอย่างเด็ดขาด แต่ไม่มีความผิดพลาดใดส่งผลกระทบมากกว่าอินเทอร์เซ็ปต์ของ ทาร์ต ซึ่งอาจทำให้ แรมส์ ตกที่นั่งลำบาก หลัง ชอน แม็คเวย์ เสียเวลานอกครั้งสุดท้าย เนื่องจากแพ้การชาลเลนจ์ผู้ตัดสิน ช่วงต้นควอเตอร์ 4