คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ผมขอกระซิบนอกเรื่องก่อนว่า แมนเช้สเต้อร์ ยูนายถิด (Manchester United) ที่ลงแข่งใน เพรอมิเอ ลีก ฤดูกาลนี้ไปแล้ว 22 นัด แต่ทำประตูได้น้อยเหลือเกินเพียง 36 ประตู เมื่อเปรียบกับ 2 ทีมหัวตารางอย่าง แมนเช้สเต้อร์ ซิตี้ (Manchester City) และ ลิเว่อร์พูล (Liverpool) ที่ต่างก็ซัดกันไปใกล้หลัก 60 ประตูแล้ว แมน ยู จึงกำลังเฝ้าจับตา ลูอิ๊ส ดิอ๊าซ (Luis Díaz) ปีกจอมถล่มประตู ทีมชาติ โกล็อมเบีย (Colombia) วัย 25 ปี จากสโมสร ปอรโต (Porto) ใน ปรีเมอิรา ลีกา (Primeira Liga) ของ ปอรตูเกา (Portugal) ที่กดไปแล้ว 14 ประตูจาก 19 นัด รั้งอันดับ 2 ของตารางดาวซัลโว แถมยังช่วยเพื่อนทำประตูได้ไม่น้อยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อั๊ตเลตีโก มาดริด (Atlético Madrid) กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) ก็กำลังจ้องจะฉกนักเตะรายนี้เช่นกัน
นอกจากนั้น แมน ยู ก็ยังคงต้องการตัว เมารีซิโอ โปเช็ตตีโน (Mauricio Pochettino) โค้ชชาว อารเฆ็นตีนา ที่กำลังคุมทีม ปารี แซ็ง-แชรแม็ง (Paris Saint-Germain) ซึ่งหมอนี่มีอัตราชัยชนะรวมตลอดอาชีพการคุมทีมแค่ 48.19 % เพราะผลงานช่วง 10 ปีที่แล้วมาถ่วงน้ำหนัก แต่ตอนนี้ดีวันดีคืน โดยถ้านับเฉพาะที่คุม เปแอ๊สเช อัตราชัยชนะตั้ง 67.69 % เชียว
อีริค เท็น หาก (Erik ten Hag) โค้ชชาวเนเธ่อร์แลนด์ส จาก อายหยักซ์ (AFC Ajax) ที่มีอัตราชัยชนะถึง 63.88 % ลูอิ๊ส เอ็นรีเก (Luis Enrique) โค้ชทีมชาติสเปน อัตราชัยชนะ 58.91 % รวมทั้ง ยูเล็น โลเปเตกี (Julen Lopetegui) อดีตโค้ชปากสว่างทีมชาติสเปนใน ฟุตบอลโลก 2018 ที่ดันเผยก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มเพียง 2 วันว่าตนได้เซ็นสัญญา 3 ปีแล้วกับ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ทำให้โดนปลดในวันรุ่งขึ้น ปัจจุบันเขาคุม เซบียา (Sevilla) และมีอัตราชัยชนะ 61.27 % เหล่านี้ล้วนเป็นคนที่ แมน ยู มองเผื่อไว้ด้วย
มาว่ากันที่เงินรางวัลซึ่งมาจากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศทั่วโลกที่สโมสรต่างๆใน เพรอมิเอ ลีก ทั้ง 20 สโมสรจะได้รับแบ่งปันในปีนี้ ตัวเลขล่าสุดที่เป็นสัญญา 3 ปีนั้น จากภายในประเทศ 5.136 พัน ล้าน พาวน์ดส และจากต่างประเทศอีก 3.2 พัน ล้าน พาวน์ดส รวมเป็นประมาณ 8.36 พันล้าน พาวน์ดส อันนี้จะต้องนำมาหาร 3 จะได้ประมาณ 2.8 พัน ล้าน พาวน์ดส เท่าๆกันเป็นเงินกองทุนสำหรับแบ่งปันในแต่ละฤดูกาล
เขามีหลักเกณฑ์คือ เงินรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันในต่างประเทศทั่วโลกประมาณ 1 พัน ล้าน พาวน์ดส จะถูกนำทั้งก้อนมาหารด้วย 20 แบ่งให้แต่ละสโมสรเท่าๆกันไปเลย ผมขอยกตัวเลขของฤดูกาล 2020-21 มาให้ทราบเป็นตัวอย่างว่า แต่ละสโมสรได้ส่วนแบ่งประมาณทีมละ 47 ล้าน พาวน์ดส
ส่วนค่าลิขสิทธิ์ภายในประเทศซึ่งมีมูลค่า 1.8 พัน ล้าน พาวน์ดส นั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ก้อนแรก 50 % จัดแบ่งให้ 20 สโมสรเท่าๆกัน ซึ่งฤดูกาล 2021-22 น่าจะได้ทีมละ 38 ล้าน พาวน์ดส ก้อนที่ 2 จำนวน 25 % เรียกว่า เมหริท มันนี่ (Merit money) ได้มากน้อยต่างกันตามผลงานอันดับของแต่ละทีมเมื่อจบฤดูกาลที่ผ่านมาคือ 2020-21 โดยมีรายได้ต่างกันอันดับละประมาณร่วม 2 ล้าน พาวน์ดส อันดับบ๊วยจะได้ 2 ล้าน พาวน์ดส ทีมแช้มพ์ก็จะได้เกือบ 40 ล้าน พาวน์ดส
ก้อนสุดท้ายอีก 25 % เรียกว่า ฟะซิลิที่ ฟี (Facility fee) อันนี้ได้รับไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการได้รับการถ่ายทอดสดให้ชาวบ้านได้ชมมากน้อยแค่ไหน โดยคิดคร่าวๆนัดละ 1 ล้าน พาวน์ดส ทั้งนี้ มีการประกันรายได้ให้ 10 ล้าน พาวน์ดส สำหรับทีมที่ถูกถ่ายทอดเพียง 10 นัดหรือน้อยกว่านั้น
เมื่อทราบหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว เราก็คงคำนวณได้ไม่ยากว่า ฟุตบอล เพรอมิเอ ลีก ฤดูกาล 2021-22 แต่ละสโมสรน่าจะได้รับเงินรางวัลทีมละเท่าไร แม้ว่าตัวเลขยังไม่ถูกเปิดเผยให้ทราบ แต่ผมก็มีตัวเลขของฤดูกาล 2019-20 มาให้เป็นตัวอย่าง โดย ลิเว่อร์พูล แช้มพ์ปีนั้น ได้รับส่วนแบ่งจากเงินลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันภายในประเทศ ส่วนที่ได้รับเท่ากัน 34 ล้าน ค่า Facility fee 33 ล้าน ค่าอันดับ 38 ล้าน เงินส่วนแบ่งจากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดในต่างประเทศ 43 ล้าน เงินแบ่งเท่ากันจากรายได้ขายโฆษณา 5 ล้าน รวมเป็น 153 ล้าน พาวน์ดส ในขณะที่ นอริช ซิตี้ (Norwich City) ทีมที่จบอันดับที่ 20 ได้รับเงินรางวัลเหล่านี้บางรายการเท่ากัน บางรายการก็ลดหลั่นลงไป แต่รวมแล้วก็ยังได้รับเงินถึง 96.5 ล้าน พาวน์ดส หรือประมาณ 4,246 ล้าน พาวน์ดส เชียวครับ