แคนซัส ซิตี ชีฟส์ รอลุ้นทีมวางอันดับ 1 สายเอเอฟซี (AFC) หลังเอาชนะ เดนเวอร์ บรองโกส์ หวุดหวิด 28-24 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่สนาม เอ็มเพาเวอร์ ฟิลด์ แอท ไมล์ ไฮ วันเสาร์ที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา
ทีมของ แอนดี หรีด จะทราบบทสรุปวันอาทิตย์นี้ (9 ม.ค.) ว่าสถิติ ชนะ 12 แพ้ 5 เพียงพอต่อการได้รับสิทธิ์บายรอบแรกหรือไม่ โดยหวังให้ ฮุสตัน เท็กแซนส์ สร้างเซอร์ไพรส์ เอาชนะ เทนเนสซี ไตตันส์ มิเช่นนั้นจะต้องลงเล่นรอบ ไวลด์ การ์ด สัปดาห์หน้า
บรองโกส์ ขึ้นนำ 21-20 และกำลังครองบอลเพื่อทำสกอร์เพิ่ม กระทั่ง เมลวิน อิงแกรม เดอะ เธิร์ด ไลน์แบ็คเกอร์ ชีฟส์ สปีดหนี โนอาห์ แฟนท์ ไทต์เอนด์ แบบไม่ถูกสัมผัสตัว ทำลายการเล่นดาวน์ที่ 2 ต้องการ 9 หลา ส่งผลให้ เมลวิน กอร์ดอน รันนิงแบ็ก เสียฟัมเบิล (บอลหลุดจากการครอบครอง)
นิค โบลตัน ไลน์แบ็คเกอร์รุกกี ชีฟส์ เก็บบอลแล้ววิ่งย้อนเลาะเส้นข้าง เกือบเสียหลักล้มตรงกลางสนาม ก่อนรักษาสมดุลร่างกายวิ่งย้อนหนี ดรูว์ ล็อค ควอเตอร์แบ็ก บรองโกส์ ซึ่งเคยเล่นด้วยกัน ที่มหาวิทยาลัยมิสซูรี เข้าสู่เอนด์ โซน
รูปเกมคล้ายเกมอื่นๆ ซึ่ง ชีฟส์ ชนะ เดนเวอร์ 13 เกมรวด แบบเฮด-ทู-เฮด และครั้งนี้ไม่ใช่งานง่ายๆ เนื่องจาก "ม้าป่า" สถิติชนะ 7 แพ้ 10 ขึ้นนำแทบทั้งเกม ถึงแม้ไม่มีความหวังใดๆ หลงเหลือ ยกเว้นเกียรติยศและศักดิ์ศรี
ชัยชนะครั้งสุดท้ายของ บรองโกส์ เหนือ แคนซัส ซิตี ต้องย้อนกลับไปวันที่ 17 กันยายน 2015
ไทรีก ฮิลล์ ปีกนอกตัวเก่ง อาจมีเวลาพักฟื้น 1 สัปดาห์เต็ม กรณี รองแชมป์เก่า กลายเป็นทีมอันดับ 1 ของคอนเฟอเรนซ์ หลังได้รับบาดเจ็บส้นเท้าขณะอบอุ่นร่างกาย รับบอลแค่ 1 ครั้ง ระยะ 2 หลา โดย เมโคล ฮาร์ดแมน ทำหน้าที่แทน รับบอล 8 ครั้ง ระยะ 103 หลา
หลังทัชดาวน์สำคัญของ โบลตัน และ มาโฮมส์ วิ่้งทำคอนเวอร์ชัน 2 คะแนน บรองโกส์ ครองบอลบุกอีกครั้ง แต่ทำได้เพียงส่ง แบรนดอน แม็คมานัส ลงมาเตะฟิลด์โกล แทนเสี่ยงเล่นด่วน์ที่ 4 ต้องการ 9 หลา ตรงเส้น 13 หลา แดนคู่ต่อสู้ ท่ามกลสงเสียงโห่ของแฟนๆ อย่างไรก็ตาม วิค ฟานจิโอ เฮดโค้ช แก้ต่างการเตะฟิลด์โกล ส่งผลให้ทีมยังมีโอกาสทำทัชดาวน์
ทว่า ทีมบุก แคนซัส ซิตี ฆ่าเวลา 4 นาที 37 วินาที จนหมด และเตรียมตัวคุกเข่าช่วงเตือน 2 นาทีสุดท้าย ขณะที่กองเชียร์ บรองโกส์ ประมาณ 15,000 คน ลุกออกจากเก้าอี้ ยอมรับสถิติแพ้มากกว่าชนะ 5 ซีซันติดต่อกัน และไม่ได้เข้าเพลย์ออฟนาน 6 ปี
เกมนี้ ล็อค ขว้างบอลเข้าเป้า 4 จาก 10 ครั้ง ระยะ 27 หลา เฉพาะครึ่งแรก แต่วิ่ง 2 ทัชดาวน์ ระยะ 5 กับ 23 หลา ส่งผลให้ บรองโกส์ ขึ้นนำ 14-10 หลังจบควอเตอร์ 2 กลายเป็นควอเตอร์แบ็กคนแรกของแฟรนไชส์ ซึ่งวิ่ง 2 ทัชดาวน์ ภายใน 1 เกม นับตั้งแต่ ทิม ทีโบว์ เมื่อปี 2011 และ กอร์ดอน ถือบอลวิ่ง 12 ครั้ง ระยะ 110 หลา 1 ทัชดาวน์
ส่วน มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก "เคซี" ขว้างคอมพลีต 27 จาก 44 ครั้ง ระยะ 270 หลา 2 ทัชดาวน์ ให้ ทราวิส เคลซี ไทต์เอนด์คู่หู และ เจอริค แม็คคินนอน ปีกนอก ขึ้นนำ 7-0 และ 17-14 ตามลำดับ โดยไม่เสียอินเทอร์เซ็ปต์
