xs
xsm
sm
md
lg

“มาโน” เผยเบื้องหลังส่ง “กวินทร์” เฝ้าเสา ลั่นเกมสุดท้ายลุยแหลกเพื่อแชมป์!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มาโน โพลกิ้ง ยอมรับว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติมากทีได้คุมทีมชาติไทยชุดนี้ โดยเฉพาะกับนักเตะที่แกร่งทั่วแผ่น พร้อมเผยเหตุผลที่ส่ง “กวินทร์” ลงเฝ้าเสาช่วงท้ายเกมเพื่อคุณพ่อที่เพิ่งเสียชีวิต

ทัพช้างศึกทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมแรกของรอบชิงชนะเลิศ หลังชนะไปได้ก่อน 4-0 จากการยิงของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สองประตู, สุภโชค สารชาติ และ บดินทร์ ผาลา

“วันนี้เป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยม แต่ว่าต้องยกเครดิตให้กับทุกคนในทีม ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เกมนี้เราเปลี่ยนระบบ และผู้เล่น แต่แผนการเล่นของเรานั้นชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าผู้เล่นไม่สามารถทำได้ตามแผน มันจะไม่ได้ผล แต่ทุกคนแสดงให้เห็นว่าเล่นได้ตามแผนตั้งแต่ต้นจนจบ ถือว่าเป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบมาก แน่นอนว่า เราเปลี่ยนระบบในวันนี้ เอานักเตะใหม่ลงมา นักเตะที่ยังไม่ได้ลงมาก ต่างก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม” มาโน กล่าวเริ่ม

“เรารู้ว่าอินโดนีเซีย มีผู้เล่นที่ดี โดยเฉพาะบริเวณริมเส้น เราเปลี่ยนระบบมาเป็น 4-2-3-1 เพื่อปิดเกมรุกริมเส้นของพวกเขา การเปลี่ยนตัวของเราค่อนข้างเสี่ยง ตอนที่เราต้องเสีย “เอเลียส” ไปหลังมีอาการบาดเจ็บ แต่ผมเลือก “วีระเทพ” ไปเป็นกองหลังแทน เพราะเราต้องการคุมเกม ครองบอล และรักษาแนวทางของเรา เลยตัดสินใจแบบนั้น มันเสี่ยงแต่สุดท้าย เขาทำได้ดี เราก็สร้างโอกาสได้มากมาย และจบลงด้วยชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ ผมเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นโค้ชกับนักเตะทุกคนในชุดนี้ แต่มันยังไม่จบ เรายังเหลือเกมอีกหนึ่งนัด เรายังไม่สามารถฉลองได้ในตอนนี้ เพราะว่ามันแค่ครึ่งทาง เราเหลืออีกเกม ที่ต้องเล่นอย่างมืออาชีพ ไปให้จบและจบเกมที่สองอย่างสมบูรณ์แบบ”

“ผมเข้ามาทำงานโดยมีเวลาไม่มากในการเตรียมทีม หลายคนไม่ค่อยเชื่อมั่นตัวผมเท่าไหร่ ในตอนแรก แต่สิ่งที่ผมชัดเจนคือ ผมมั่นใจในแนวทางการทำทีมของผม และมั่นใจนักเตะทุกคนที่มาอยู่กับเรา มันเป็นเป้าหมายของเราในการคว้าแชมป์ เพราะผมเชื่อในคุณภาพ และเชื่อว่า เราสามารถทำได้ ตอนนี้เราจับถ้วยมือหนึ่ง แต่มันยังไม่จบ เราต้องย้ำเรื่องนี้ เรายังเหลืออีกเกม เรายังมีหน้าที่อยู่ เราต้องทำให้มันสำเร็จก่อน”

“ชัยชนะในวันนี้หรือความสำเร็จที่เรากำลังจะได้มา มาจากผู้จัดการทีม เพราะผู้จัดการทีมของเรารักฟุตบอล มีความสามารถในการสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ เพื่อให้นักเตะผ่อนคลาย รวมถึงประสานงานกับสโมสรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ จนทำให้เรามีนักเตะที่ที่สุด เราได้คุยกันตั้งแต่แรกว่าเราไม่มีเวลาในการซ้อม ต้องขอความร่วมมือ ในการเอานักเตะจากสโมสรต่างๆ ต้องขอบคุณผู้จัดการทีมเป็นอย่างมาก”

“การเปลี่ยนนักเตะมากมายในเกมนี้ วันนี้ต้องให้เครดิตนักเตะทุกคน ผมเป็นเกียรติที่ได้โค้ชพวกเขาทุกคน ส่วนการเปลี่ยนผู้รักษาประตู ผมอยากอธิบายว่าเราไม่ได้ไม่เคารพอินโดนีเซีย แต่เป็นเพราะว่าคุณพ่อของกวินทร์ (น้ำตาไหล) เพิ่งเสียไปเมื่อช่วงบ่าย เราอยากตอบแทนความทุ่มเทของกวินทร์ ด้วยการสร้างช่วงเวลาดีๆให้เขาได้ลงสนามเพื่อพ่อของเขา”

“ส่วน เจนภพ โพธิ์ขี เป็นนักเตะที่ทุ่มเทและซ้อมอย่างหนัก แต่ว่าเรายังไม่ได้คิดถึงการส่งนักเตะทุกคนลงสนาม เพราะหน้าที่ของเรายังไม่จบ เราต้องมีสมาธิ และเป้าหมายที่ชัดเจน และเราต้องทำผลงานให้ดีที่สุดในเกมที่สองตามเป้าหมาย เราต้องโฟกัสที่เกม เพื่อไม่ให้อินโดนีเซีย มีโอกาสกลับมาได้ เพราะฟุตบอลทั่วโลก ไม่ว่าจะในสโมสรต่างก็เคยกลับมาได้ หลังตามหลังหลายประตู เราจะไม่ประมาท เราจะเล่นอย่างเต็มที่ด้วยสมาธิในเกมที่สอง”

สำหรับเกมนัดที่สองของรอบชิงชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2020 ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสด ทางช่อง 7 HD และ AIS Play
กำลังโหลดความคิดเห็น