คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
นักเตะอย่างน้อย 2 คนกำลังถูกจับจ้องฉกตัวจากต้นสังกัดโดย บารเซโลนา (Barcelona) สโมสรดังของ สเปน ที่ต้องสูญเสีย ลิโอเน็ล เม้สซี่ (Lionel Messi) สุดยอดนักเตะของโลก ชาวอารเฆ็นตีนา ไปให้กับ ปารี แซ็ง-แชรแม็ง (Paris Saint-Germain) และดันคว้ารางวัล บัลลง ดอร (Ballon d'or) ปีล่าสุดมาครองเป็นสมัยที่ 7 มากกว่าใคร ในขณะที่อันดับของตนใน ลา ลีกา (La Liga) ยังรูดลงมาเกือบกลางตาราง
รายแรกคือ แฟรรัน ตอรเร้ส (Ferran Torres) กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติสเปน วัย 21 ปี แห่ง แมนเช้สเต้อร์ ซิตี้ ผู้เชี่ยวชาญวิจารณ์ว่า หมอนี่มีทักษะล้ำ ถนัดทั้ง 2 เท้า มีพละกำลังและความเร็วเหลือล้น เป็นจอมเลื้อยที่มีประโยชน์มากสามารถเล่นเกมบุกได้ทั่วสนาม พาบอลขึ้นริมเส้นได้อย่างแกร่งและพร้อมจะตัดเข้าในได้ทุกเวลา นอกจากนั้น เกมกลางอากาศก็ไม่เบา แถมเป็นนักเตะอีกคนหนึ่งที่คู่แข่งคาดเดาทางลำบาก แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ที่ภาษาฝรั่งเรียกว่า รีลายอะเบิ้ล ซ้อร์ส (Reliable source) บอกว่า แอบเห็นผู้บริหารของ บารซา แอบไปนั่งคุยกับผู้จัดการส่วนตัวของ แฟรรัน ในงานมอบรางวัล บัลลง ดอร เมื่อ 2 วันก่อน
อีกรายคือ อ็องโตนี มารซิอัล (Anthony Martial) ปีกซ้าย ทีมชาติฝรั่งเศส วัย 25 ปี แห่ง แมนเช้สเต้อร์ ยูนายถิด (Manchester United) นี่ก็เป็นนักเตะจอมเท้คนิกที่มีความเร็วและพลังเป็นคุณสมบัติ ผู้เชี่ยวชาญวิจารณ์ว่า หมอนี่เลี้ยงบอลในที่แคบได้ดี สามารถพาบอลฝ่าทะลุกองหลังเห็นๆหลายหนด้วย เป็นนักเตะที่เหมาะที่จะเล่นในหลายตำแหน่งไม่ว่า ปีกซ้าย หน้าต่ำ หรือ หัวหอกทำประตู ซึ่งโค้ชแต่ละคนต่างก็เห็นเหมาะคนละอย่างและจับเขาเล่นในตำแหน่งต่างๆที่กล่าวมานี่แหละ และเพราะความที่มักจะถูกเปรียบเทียบกับนักเตะแบบฉบับเดียวกันที่ บารซา เคยมีและสร้างความสำเร็จให้สโมสร นั่นคือ ติเอรี อ็องรี (Thierry Henry) อ็องโตนี จึงเป็นที่น่าสนใจเหลือเกิน
ส่วนใน แมน ยู เองที่ตอนนี้อยู่แถวกลางตารางเหมือนกัน ย่ำแย่พอกันเลย โปล ป๊อกบา (Paul Pogba) มิดฟีลด์ ทีมชาติฝรั่งเศส วัย 28 ปี ที่ผมว่าเขาคือสุดยอดนักเตะที่จ่ายบอลระดับเวิร์ลด์ คล้าส ยากต่อการคาดเดาคนหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่ค่อยสบายใจมาระยะหนึ่งแล้วกับการเล่นที่ อังกฤษ แหล่งข่าวบอกว่า เห็นหมอนี่เข้าพบพูดคุยกับ นัสเซอร อัล คะไลฟี (Nasser Al-Khelaifi) ประธานสโมสร ปารี แซ็ง-แชรแม็ง (Paris Saint-Germain) ซึ่งบทสนทนาก็ไม่น่าจะเป็นอื่นใดไปได้นอกจากการขอย้ายวิกไปร่วมสังกัดด้วย แต่พอมีข่าวเรื่องนี้แพล็มออกมา ทาง เปแอ๊สเช รีบออกมาปฏิเสธกันหลายรอบว่า มันไม่มีอะไรเลย เพียงแค่เจอกันก็ทักทายกันธรรมดา
แมน ยู ยังมีเรื่องกระซิบเกี่ยวเนื่องกับรางวัล บัลลง ดอร หนล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อ 2 วันก่อน โดย คริชติอาโน โรเนาโด (Cristiano Ronaldo) กองหน้าดาวยิง ชาวปอรตูเกา วัย 36 ปี ที่ไม่ติด 1 ใน 3 ออกอาการฉุนขาดเลยที่ ปั๊สกัล แฟรเร (Pascal Ferré) หัวหน้ากองบรรณาธิการของ ฟร้องส์ ฟุตบอล (France Football) สื่อฟุตบอลยักษ์ใหญ่ของ ฝรั่งเศส ผู้ก่อตั้งรางวัลดังกล่าวดันไปให้สัมภาษณ์กับ นิวยอร์ค ทายม์ส (New York Times) อ้างว่าตนได้เผยกับเขาว่า “ความฝันของตนนั้นเหลือเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ จบชีวิตค้าแข้งโดยมีรางวัล บัลลง ดอร มากกว่า เม้สซี่”
ปั๊สกัล พูดเหมือนกับว่า คริชติอาโน คุยว่าตนทำผลงานได้ดีกว่าโดยเฉพาะการยิงประตูในช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ให้สื่อมวลชนทั่วโลกส่งคะแนนมานั้น ก็ยิงได้มากกว่า เม้สซี่ อันนี้ CR7 พูดเหมือนด่าเลยว่า หมอนี่โกหกชัดๆ มาอาศัยชื่อของตนหากิน หิวแสงนี่หว่า ซึ่งตนรับไม่ได้กับคนที่เป็นผู้จัดรางวัลอันทรงเกียรตินี้ แต่ไม่ให้ความเคารพคนที่นับถือ ฟร้องส์ ฟุตบอล และ รางวัลดังกล่าวเลย นี่ยังปากสกปรกอีกที่มาว่าตนแกล้งเอาเรื่องกักตัว โควิด-19 มาอ้างเหตุไม่มาร่วมงาน
เจ้าของรางวัล บัลลง ดอร 5 สมัยบอกว่า เขาแสดงความยินดีเสมอกับผู้ได้รับรางวัล ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตนก็คือ นำสโมสรต้นสังกัดคว้าแช้มพ์ทั้งในประเทศและระดับทวีป รวมทั้ง นำทีมชาติคว้าแช้มพ์ และฝันที่จะแบบอย่างสำหรับใครที่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ รวมทั้ง สร้างชื่ออย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลของโลกต่างหาก นี่ถ้าต่อไป คริชติอาโน โรเนาโด เกิดสร้างผลงานสุดยอด แต่ดันไม่ได้รับรางวัลนี้อีก เราก็ไม่ต้องสงสัยนะครับ ด้วยเหตุทะเลาะกับ กองประกวด นี่เอง