ชาน ชี-ชาง จากไชนิสไทเป หวดวันสุดท้ายได้อีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสี่วัน 18 อันเดอร์พาร์ 270 แซงคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีส์ 2021 รายการ “บลูแคนยอน ภูเก็ต แชมเปียนชิพ” ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ณ สนามบลูแคนยอน คันทรี คลับ (แคนยอน คอร์ส) ระยะ 7,257 หลา พาร์ 72 จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเฉือนชนะ สดมภ์ แก้วกาญจนา กับ คิม จูฮยุง จากเกาหลีใต้ ไปเพียงสโตรคเดียว
เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพส่งท้ายฤดูกาล 2020-2021 หลังจากหยุดแข่งขันยาวถึง 19 เดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยสองรายการใหญ่สองสัปดาห์ติดต่อกันที่จังหวัดภูเก็ต และได้รับการขนานนามว่าเป็น “เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีส์” โดยเริ่มจากรายการ บลูแคนยอน ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามบลู แคนยอน คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามด้วยรายการ ลากูน่า ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม โดยทั้งสองรายการมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิงรายการละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท
วันสุดท้ายของการชิงชัยปรากฏว่า โปรเพชร-สดมภ์ แก้วกาญจนา ยังทำสถิติในการลงแข่งมาแล้ว 20 รอบ และไม่เคยทำสกอร์โอเวอร์พาร์แม้แต่รอบเดียว โดยหวดเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสี่วันสดมภ์จบ 17 อันเดอร์พาร์ 271 รั้งรองแชมป์ร่วมกับ คิม จูฮยุง ดาวรุ่งวัย 19 ปีจากเกาหลีใต้ รับเงินรางวัลไปคนละ 86,500 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.9 ล้านบาท ส่วนชาน คว้าแชมป์ในเมืองไทยเป็นรายการที่สองไปได้ที่สกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 รับเงินรางวัล 180,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 6 ล้านบาท
ชาน ชี-เชง โปรวัย 35 ปี ซึ่งออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ตามหลังผู้นำสองสโตรค เผยหลังเป็นแชมป์เอเชียน ทัวร์ คนแรกในรอบ 19 เดือนว่า “ผมรู้สึกดีเสมอที่ได้มาแข่งที่ประเทศไทย รู้สึกเล่นได้สบายและกดดันน้อยกว่าเล่นที่บ้าน นี่เป็นชัยชนะรายการที่สามของผมในเอเชียน ทัวร์ และเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ลูกชายของผมอายุได้แปดเดือน ผมคิดว่าลูกชายนำโชคมาให้ เกมวันนี้รอบเก้าหลุมแรกผมตีไม่ค่อยดี ทำสามพัตต์เสียไปสองโบกี้ แต่มาทำอีเกิ้ลได้ในหลุม 9 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่เปิดโอกาสให้ผมทำได้ดีในหลุมต่อๆ ไป แล้วพอได้เบอร์ดี้ที่หลุม 13 ทำให้ผลเล่นได้มั่นใจขึ้นและได้อีก 3 เบอร์ดี้ติดจนถึงหลุม 16 กระทั่งหลุมสุดท้ายสกอร์เท่ากันสดมภ์ ก็บอกตัวเองว่าต้องโฟกัสให้มากขึ้น คิดว่าถ้าไดร์ฟไปบนแฟร์เวย์ก็จะสร้างความกดดันให้สดมภ์มากขึ้น แต่ก็ตีออกไปตกรัฟด้านซ้าย เช่นเดียวกับสดมภ์ ตอนนั้นบอกตัวเองว่ายังคงมีโอกาสถ้าตีขึ้นไปออนแล้วก็ทำได้ ส่วนสดมภ์เองก็อยู่ในไลพัตต์ที่ยาก ช็อตนั้นไม่ง่ายเลย รู้สึกยินดีมากที่ทำได้สำเร็จ”
ทางด้าน สดมภ์ แก้วกาญจนา กล่าวว่า “เกมการเล่นวันนี้ถือว่าใช้ได้ อยู่ในเกณฑ์ที่ดีในมาตรฐานของผม มาได้เบอร์ดี้แรกที่หลุม 7 ทำให้เรามั่นใจเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นก็มีโอกาสลุ้นเบอร์ดี้อีกหลายหลุม ส่วนหลุมสุดท้ายก็ตั้งใจตีไปทางซ้ายแหละครับแต่ลึกไปหน่อย หลุมนี้อย่างไรก็ต้องตีไปซ้ายเพื่อเปิดโอกาสให้ตีขึ้นกรีนได้ง่ายขึ้น ช็อตสองก็ตีไปค่อนข้างดี ไปอยู่ซ้ายของกรีน แต่ลูกตรงนั้นเล่นค่อนข้างยากไปหน่อย ก็ทำดีที่สุดแล้ว จริงๆก่อนแข่งก็ตั้งเป้าไว้ว่าขอผ่านตัดตัวก่อน ส่วนสองวันหลังก็พยายามให้ติดท็อปเท็น จบที่สองก็ค่อนข้างพอใจ เกินเป้าหมายที่คาดไว้ ได้ประสบการณ์มากขึ้น เป้าหมายต่อไปสัปดาห์หน้าแข่งลงที่สนามลากูน่า พยายามทำให้เต็มที่เล่นให้เหมือนเดิม”
อันดับสี่ร่วมเป็นของ คิม ไบโอ จากเกาหลีใต้, แบรี เฮนสัน จากสหรัฐฯ, สก็อตต์ เฮนด์ จากออสเตรเลีย และคิม ชีฮวาน จากสหรัฐฯ ที่สกอร์คนละ 16 อันเดอร์พาร์ 272 รับเงินรางวัลคนละ 38,200 เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 1.2 ล้านบาท ด้าน โปรเพชร-พชร คงวัดใหม่ วัย 22 ปี จากสงขลา เป็นนักกอล์ฟไทยอีกรายที่จบท็อปเทนในอันดับที่ 8 ร่วมกับ เวียร์ อาห์ลาวัต จากอินเดีย ที่สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274 รับเงินรางวัลไปคนละ 22,950 เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 757,350 บาท
ทางด้านโปรไทยรายอื่นๆ ทำผลงานดังนี้ สุรดิษ ยงค์เจริญชัย 13 อันเดอร์พาร์ 275 อันดับ 10 ร่วม, สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย, เนติพงศ์ ศรีทอง, โคสุเกะ ฮามาโมโต้ สกอร์คนละ 12 อันเดอร์พาร์ 276 อันดับ 15 ร่วม, ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม 10 อันเดอร์พาร์ 278 อันดับ 21 ร่วม และ ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ 9 อันเดอร์พาร์ 279 อันดับที่ 23 ร่วม
ขณะที่ ทีเค-รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ วัย 14 ปี จากร.ร.นานาชาติชูรส์เบอรี เจ้าของแชมป์สมัครเล่นในรายการอาชีพที่สนามนี้เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คว้ารางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นสกอร์ต่ำที่สุด ด้วยการปิดฉากที่ 7 อันเดอร์พาร์ 65 จาก 8 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ สี่วันรวม 12 อันเดอร์พาร์ 276 จบอันดับที่ 15 ร่วมของทัวร์นาเมนท์