ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส เก็บชัยชนะเกมเหย้าครั้งแรกรอบ 1 ปีเศษ ต้อน แอลเอ แรมส์ ขาดลอย 31-10 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) "มันเดย์ ไนท์" ที่สนาม ลีวายส์ สเตเดียม วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน
ไนเนอร์ส พ่าย 4 จาก 5 เกมล่าสุด มีสิทธิ์หลุดวงโคจรชิงโควตาเพลย์ออฟ ก่อนรวมพลังเค้นฟอร์มอันสมบูรณ์แบบ ยัดเยียดความปราชัยเกมที่ 5 ติดต่อกันแก่ แรมส์ แบบเฮด-ทู-เฮด
จิมมี การ็อปโปโร ควอเตอร์แบ็ก ขว้างบอลเข้าเป้า 15 จาก 19 ครั้ง ระยะ 182 หลา 2 ทัชดาวน์ ดีโบ ซามูเอล ปีกนอก วิ่งอีก 1 ทัชดาวน์ และ จิมมี วอร์ด คอร์เนอร์แบ็ก วิ่งย้อน 1 จาก 2 อินเทอร์เซ็ปต์ เป็น 1 ทัชดาวน์ ส่งผลให้ ซาน ฟรานซิสโก ชนะเกมเหย้านับตั้งแต่ พบ แรมส์ วันที่ 18 ตุลาคม 2020 ขยับสถิติเป็น ชนะ 4 แพ้ 5 อยู่อันดับ 3 ดิวิชัน เอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันตก
โฟร์ตีไนเนอร์ส ตอกฝาโลงด้วยเพลย์ การ็อปโปโล ขว้างทัชดาวน์ 40 หลา ให้ ซามูเอล ในการเล่นดาวน์ที่ 4 ต้องการ 6 หลา ช่วงต้นควอเตอร์ 4 ทิ้งห่าง 31-7
ทีมบุก แรมส์ จูนกันไม่ติด หลังลงเล่นเกมแรก โดยปราศจาก โรเบิร์ต วูดส์ ปีกนอก เจ็บเข่าพักทั้งซีซัน ระหว่างฝึกซ้อม ขณะที่ โอเดลล์ เบ็คแฮม จูเนียร์ ปีกนอกป้ายแดง ประเดิมสนาม รับบอล 2 ครั้ง ระยะ 18 หลา และ วอน มิลเลอร์ ไลน์แบ็คเกอร์ จอมเก๋า ลงสนามเกมแรก ผลงาน 3 แท็คเกิล และไม่ได้สร้างความหนักใจใดๆ แก่ การ็อปโปโล
ส่วน แม็ตธิว สแตฟฟอร์ด ควอเตอร์แบ็ก ขว้างบอลเข้าเป้า 26 จาก 41 ครั้ง ระยะ 243 หลา 1 ทัชดาวน์ เสีย 2 อินเทอร์เซ็ปต์ สถิติ แรมส์ หล่นเหลือ ชนะ 7 แพ้ 3 รั้งอันดับ 2 ดิวิชันเดียวกัน